PTTEP เผยกำไร Q2/68 ลดฮวบ 38% YoY ราคาขายลดลงตามตลาดโลก-ค่าใช้จ่ายโครงการเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 25, 2025 18:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม [PTTEP] หรือ ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/68 จำนวน 408 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 13,515 ล้านบาท) ลดลง 80 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือลดลง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/68 (QoQ) และลดลง 245 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือลดลง 38% YoY

โดยกำไรสุทธิลดลง เนื่องราคาขายเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 44.01 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งปรับตัวลดลงที่ 4% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ประกอบกับต้นทุนต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้น 1% มาอยู่ที่ 31.10 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เนื่องจากค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้น และค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นสุทธิกับปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 504,772 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยหลักจากโครงการจี 1/61 และโครงการจี 2/61 ที่มีการปิดซ่อมบำรุงลดลง และการขายน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของโครงการในตะวันออกกลางและแอฟริกา รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงการสินภูฮ่อม

ขณะที่งวด 6 เดือนสิ้นสุดมิ.ย. 68 ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 895 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 30,076 ล้านบาท) ลดลง 282 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือ 24% YoY สาเหตุหลักจากราคาขายที่ลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยหลักจากโครงการมาเลเซียแปลง เค ซึ่งมีปริมาณขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายจากกิจกรรม ซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นจากโครงการจี 1/61 โครงการจี 2/61 และโครงการเอส 1 นอกจากนั้นค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้น และค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยหลักจากโครงการจี 1/61 ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และโครงการจี 2/61 มีสินทรัพย์พร้อมใช้งานเพิ่มขึ้น

ขณะที่มีรายได้รวม 148,531 ล้านบาท (เทียบเท่า 4,431 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.)) มีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 494,552 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการ G1/61 ที่เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในเดือนมีนาคม 2567 และโครงการมาเลเซีย แปลงเค ที่มีการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงการสินภูฮ่อมเมื่อเดือนเมษายน 2568 ในขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก มาอยู่ที่ 44.85 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และมีต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) ที่ 30.9 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 30,067 ล้านบาท (เทียบเท่า 895 ล้านดอลลาร์ สรอ.)

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP เปิดเผยผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2568 ว่าบริษัทมีความก้าวหน้า ในการขยายธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยชนะการประมูลแปลงสัมปทานเร็กเกนเน่ ทู (Reggane II) ในประเทศแอลจีเรีย ร่วมกับบริษัท Eni Algeria Exploration B.V. และได้ลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสัญญาจะมีผลเสร็จสมบูรณ์เมื่อมีประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลแอลจีเรีย ปตท.สผ. ถือสัดส่วนการลงทุน 34% โดยมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติแล้ว และยังมีพื้นที่ที่มีศักยภาพในการสำรวจเพิ่มเติม อีกทั้ง แปลงเร็กเกนเน่ ทู ยังตั้งอยู่ใกล้โครงการแอลจีเรีย ทูอัท (Algeria Touat Project) ซึ่งเป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ ปตท.สผ. ได้ประกาศเข้าลงทุนไปก่อนหน้านี้ จึงสามารถสร้างความต่อเนื่องเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนา และการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติร่วมกันได้

สำหรับในภูมิภาคตะวันออกกลาง ปตท.สผ. ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงขยายอายุสัญญาแบ่งปันผลผลิตในโครงการโอมาน แปลง 53 ไปจนถึงปี 2593 นอกจากนี้ ยังได้รับอนุมัติแผนพัฒนาโครงการและสัญญาสัมปทานผลิตปิโตรเลียมของโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 จากหน่วยงานของรัฐอาบูดาบีในยูเออี หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ