นางสาว บี เล็ง โก๊ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล [ANI] เปิดเผยว่าภาพรวมอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครึ่งปีหลัง มีปัจจัยสำคัญคือการเจรจาภาษีการค้าระหว่างประเทศต่างๆกับสหรัฐอเมริกา โดยอัตราภาษีการค้าใหม่ระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่ 19% นั้นอยู่ในระดับเดียวกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน จึงไม่ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันของไทย และคาดว่าภาพรวมการส่งออกครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศจากประเทศในอาเซียนไปยังสหรัฐฯ ประมาณ 10% เท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก หลังจากได้เดินหน้าขยายสาขาไปยังนอร์เวย์เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริการในเส้นทางขนส่งระยะไกลระหว่างภูมิภาคเอเชีย-ยุโรป และการเปิดบริการสาขาในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้และผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง โดยวางเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ระวางและศักยภาพให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอาจพิจารณาโอกาสการขยายธุรกิจด้วยการทำ M&A เพื่อผลักดันการเติบโต
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/68 มีรายได้จากการจากให้บริการ 1,823.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% และในส่วนของกำไรสุทธิ 136.0 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย -1.5% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินงานจากการมุ่งเน้นขยายธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับสัญญาตัวแทนขายระวางสินค้าเพิ่มขึ้นจากสายการบินมาอย่างต่อเนื่อง และยังได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เพิ่มขึ้นหลังจากผ่านเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้มีปริมาณการขนส่งสินค้ารวม 32,073 ตัน อีกทั้งได้มุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนและความสามารถทำกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมธุรกิจสายการบินที่มีการแข่งขันสูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของค่าระวางสายการบิน ประกอบกับบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายภาษีตามฤดูกาลและผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้จากการให้บริการ 3,495.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 274.1 ล้านบาท ชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน