ESG ไม่ใช่แค่กระแส แต่กำลังจะกลายเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย !! นั่นก็เพราะ "พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ใกล้ประกาศใช้เข้ามาทุกที แม้จะดูเหมือนอีกหลายปี แต่ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้ บอกเลยว่าปรับตัวไม่ทัน
เพราะบางสิ่งที่ทำเพราะสมัครใจ กำลังจะกลายเป็นภาคบังคับ นั่นหมายความว่าถ้าไม่ทำ คุณจะถูกลงโทษ ! ใครอยากรอด รีบมาฟัง "All Abou ESG" EP.นี้ ที่จะมาพูดคุยกับนางสาวสุพัฒนา วิชากูล กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจสภาพอากาศและความยั่งยืน บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ [TEAMG] ที่พร้อมติวเข้มให้ภาคธุรกิจไทยเข้าสู่ ESG อย่างยั่งยืน !!
ปัจจุบันเรียกได้ว่าบริษัทต่าง ๆ ในไทยตระหนักถึงเรื่อง ESG อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น บริษัทขนาดใหญ่ ที่มีแผนงานชัดเจน มีข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และไม่ได้ทำแค่องค์กรตัวเอง แต่ก็ผลักดันเรื่องนี้ไปยัง Supply Chain ด้วย
ขณะที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กก็เริ่มทำแล้วเช่นกัน เพราะว่ามีแรงกดดันเป็นมาตรการภาคบังคับเกิดขึ้น เช่น ในต่างประเทศก็มีกฎหมาย CBAM : Carbon Border Adjustment Mechanism หรืออย่างในไทยก็เริ่มจะได้ยินเรื่อง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ภาคธุรกิจปรับตัว
พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังจะถูกนำมาใช้ น่าจะทำให้องค์กรต่าง ๆ ยิ่งปรับตัวกันแบบเต็มสปีด เพราะมีสาระสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้
-หมวดกลาง ๆ : หมวด 6-11 เป็นหมวดเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ซึ่งในปัจจุบันเป็นภาคสมัครใจ แต่เมื่อพ.ร.บ.ประกาศใช้ ก็จะกลายเป็นภาคบังคับทันที
โดยจะมีการกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ต้องรายงานการคำนวณปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละปีขององค์กร , ข้อมูลที่รายงานก็ต้องได้รับการตรวจสอบ-ทวนสอบจากหน่วยงานผู้ทวนสอบที่ขึ้นทะเบียนกับอบก. (องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก) เป็นต้น
-หมวดที่น่าตื่นเต้นที่สุด : หมวด 14 ซึ่งเป็นหมวดสุดท้าย นั่นคือบทกำหนดโทษ ซึ่งใช้ในกรณีที่องค์กรต่าง ๆ ไม่รายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ รายงานข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
สรุปคือ พ.ร.บ. นี้จะเปลี่ยนการรายงานก๊าซเรือนกระจกจากภาคสมัครใจเป็นภาคบังคับ พร้อมกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจนเพื่อให้ทุกองค์กรปฏิบัติตามอย่างจริงจัง
ในส่วนของ TEAMG เองก็มีส่วนช่วยในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกหลายด้าน แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ หนึ่ง งานที่ปรึกษา (Advisory) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเรามากว่า 47 ปี ให้คำปรึกษาทั้งภาครัฐ ที่มีโครงการเด่น ๆ อย่างเช่น การจัดทำ Platform ก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย ขณะที่ภาคเอกชนก็สำคัญ เราก็พร้อมที่จะเข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้องค์กรต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่เรื่อง ESG
- "ผู้ทวนสอบ" เราก็เป็น !! ว่าแต่...มันคืออะไร ?
สำหรับงานส่วนที่สอง ต้องบอกว่า TEAMG ได้ขึ้นทะเบียนกับอบก.เป็นผู้ทวนสอบ (Validation and Verification Body) หรือ VVB ซึ่งมีหน้าที่ 2 ส่วนหลักคือ
-ทวนสอบข้อมูล CFO (Carbon Footprint for Organization) : ตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่องค์กรต้องรายงาน
-ทวนสอบโครงการ TVER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) : ตรวจสอบโครงการคาร์บอนเครดิตแบบสมัครใจในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือการปลูกป่า เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการเป็นไปตามมาตรฐานและประเมินว่าองค์กรจะได้รับคาร์บอนเครดิตในจำนวนเท่าใด
อุปสรรคสำคัญของการทำเรื่อง ESG ในไทยคือ มันดันเริ่มมาจากภาคบังคับ ภาคธุรกิจจึงมองว่า ESG เป็นภาระ ดังนั้นเราควรเปลี่ยนมุมมองตรงนี้ ต้องสื่อสารให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจว่า ESG เป็นประโยชน์ทั้งต่อโลกและองค์กร อาทิ เช่น การประเมินก๊าซเรือนกระจก มันก็เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรของบริษัท ถ้าเราลดเรื่องนี้ได้ มันก็ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยั่งยืนทาง Financial ด้วย
"เรื่อง ESG ต้องมีการสื่อสารกันเยอะ ๆ พูดกันซ้ำ ๆ ให้เข้าไปอยู่ใน DNA หรือลองเริ่มจากการมองทุกอย่างให้เป็นก๊าซเรือนกระจกก็ได้ เราจะได้เห็นภาพชัดขึ้นว่าทรัพยากรที่เราใช้มันส่งผลเสียไปทำลายโลกเท่าไหร่" นางสาวสุพัฒนา กล่าวhttps://youtu.be/QBQd2Wbyjyk