SGP ทุ่ม 110 ลบ.เพิ่มถือหุ้นโรงไฟฟ้าเมียนมา พร้อมส่องโอกาสลงทุนธุรกิจ LPG ในฟิลิปปินส์-อินโดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 15, 2025 11:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SGP ทุ่ม 110 ลบ.เพิ่มถือหุ้นโรงไฟฟ้าเมียนมา พร้อมส่องโอกาสลงทุนธุรกิจ LPG ในฟิลิปปินส์-อินโดฯ

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ [SGP] เปิดเผยว่า บริษัท SIAMGAS POWER PTE.LTD. (SPW) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในสิงคโปร์ที่ SGP ถือหุ้น 100% เข้าซื้อหุ้นเพิ่ม 4.9% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วใน Asiatech Energy Pte. Ltd. ( AEPL), Ruamur Pte. Ltd. (RUAMUR) และ Myanmar Lighting (IPP) Co., Ltd. (MLIPP) ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน 3 บริษัทจะเพิ่มขึ้นจาก 41.1% เป็น 46% ของทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว

SPW ได้ซื้อหุ้นเพิ่มใน AEPL และ RUAMUR แล้วและการโอนหุ้นได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา ในส่วนของการโอนหุ้น MLIPP อยู่ระหว่างการดำเนินขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.68 ธุรกรรมนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3.38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 110 ล้านบาท

"การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และเสริมความมั่นคงให้กับธุรกิจในอนาคต" นางจินตณากล่าว

สำหรับงบลงทุนปีนี้บริษัทตั้งไว้รวม 350 ล้านบาท แบ่งเป็น 160 ล้านบาท สำหรับปรับปรุงคลังก๊าซ LPG ในประเทศ และ 190 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างและปรับปรุงคลังก๊าซ LPG ในมาเลเซียและเวียดนาม

นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนธุรกิจก๊าซแอลพีจีในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย รวมไปถึงเล็งที่จะขยายการลงทุนเพิ่มในประเทศแถบเอเชียใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตคู่ขนานทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างมั่นคง และช่วยสนับสนุนภาพรวมการเติบโตในอนาคต

ล่าสุดผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/68 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 559.85 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 549.49 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 67 ที่มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 10.36 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย จากการขนส่ง และการให้บริการ 16,616.37 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 20,917.02 ล้านบาท ลดลง 20.56%

สาเหตุหลักมาจากปริมาณการขายของธุรกิจก๊าซ LPG ในต่างประเทศลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จาก 598,161.96 ตัน เป็น 461,960.55 ตัน หรือลดลง 22.77% และสาเหตุรองลงมาคือราคาอ้างอิงก๊าซ LPG ในตลาดโลกมีการปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องในเดือนพ.ค.และมิ.ย. ที่ -10.0 และ -15.0 USD/ตัน ตามลำดับ ส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากสต๊อกสินค้าบางส่วนและมาร์จิ้นต่อยอดขายลดลง โดยราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) ในไตรมาส 2 ปี 2568 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 598 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน

อย่างไรก็ดี ปริมาณการขายก๊าซ LPG ในประเทศเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จาก 195,484.54 ตัน เป็น 204,036.61 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 4.37% โดยเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มลูกค้า ได้แก่ ลูกค้า M.10 (+20.72%) ลูกค้าอุตสาหกรรม (+8.03%) ลูกค้าขนส่ง (+3.72%) และลูกค้าหุงต้ม (+2.02%) ปัจจัยสนับสนุนจากการที่บริษัทได้นำเข้าก๊าซ LPG เข้ามาในประเทศบางส่วน ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการการจัดส่งได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ