THAI เร่งปิดดีลเครื่องบินเช่าก.ย.นี้ 8-10 ลำ รักษาโมเมนตัมเติบโต มั่นใจรายได้ตามเป้าพร้อมลุยตลาดจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 25, 2025 09:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

THAI เร่งปิดดีลเครื่องบินเช่าก.ย.นี้ 8-10 ลำ รักษาโมเมนตัมเติบโต มั่นใจรายได้ตามเป้าพร้อมลุยตลาดจีน

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย [THAI] เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมรับมอบเครื่องบินใหม่ โบอิ้ง 787 Dreamliner ที่จะทยอยเข้ามาในต้นปี 2571 ล็อตแรก 9 ลำ แต่ในช่วงระหว่างนี้ ปี 69-70 การบินไทยจำเป็นต้อง จัดหาเครื่องบินลำตัวกว้างเพื่อเข้ามาเสริมฝูงบินช่วยเพิ่ม Capacity ส่งให้การบินไทยมีอัตราการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยจะเป็นการเช่าเครื่องบินลำตัวกว้าง 8-10 ลำ ในช่วงระยะเวลาสั้น 6 ปี เพื่อรองรับการบินระยะไกล

แต่ก็ยอมรับว่าการหาเครื่องบินเช่าช่วงนี้ค่อนข้างยากเพราะปัญหาอุตสาหกรรมการบินปัจจุบันที่ยังไม่มีเครื่องบินใหม่เข้ามาในตลาด ทั้งปีนี้และปีหน้า ซึ่งทั้งแอร์บัสและโบอิ้งซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินก็ดีเลย์การส่งมอบเครื่องบินใหม่

"ทุกสายการบินรู้ปัญหาว่าเครื่องบินดีเลย์ออกไป ฉะนั้น เขาก็ไม่ปล่อยให้สัญญาหมดไป เครื่องเก่าก็ไม่เข้าตลาด เราพยายามหาเครื่องบินเก่าเพื่อมาเติมในช่วงสั้น ถึงช่วงกลาง ช่วงนี้เราหาอยู่เป็นช่วงศึกษาและเจรจาอยู่ วันนี้เรามี offer อยู่ในมือแล้ว" นายชาย กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THAI กล่าวว่า บริษัทฯ พยายามจะสรุปเรื่องนี้ให้เร็ว ซึ่งคาดว่าน่าจะชัดเจนในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากนั้นนำเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการบริษัทต่อไป โดยคาดจะเข้ามาในกลางปี 69

ขณะที่ในปี 68 บริษัทฯ จะรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A321 NEO ทั้งหมด 17 ลำในตารางบินฤดูหนาว (Winter) 69 โดย 2 ลำแรกจะรับมอบในเดือนก.ย. 1 ลำ และปลายปีอีก 1 ลำ ส่วนในปี 69 การบินไทยทยอยรับมอบ A321 NEO จำนวน 15 ลำ ขณะที่เครื่องโบอิ้ง 787-9 เช่าเข้ามาอีก 1 ลำในปลายปี 68 จากปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินจำนวน 78 ลำ ประกอบด้วย เครื่องบินลำตัวกว้าง 58 ลำ ลำตัวแคบ 20 ลำ

นายชาย กล่าวว่า ในปี 68-69 เครื่องบินยังมาไม่เต็มฝูง ทำให้เกิดความไม่สมดุล (imbalance) ของฝูงบิน ที่มีเครื่องบินลำตัวแคบใหม่เข้ามามากในช่วงนี้ บริษัทฯจึงต้องหาเครื่องบินเช่าเพิ่ม ในช่วงนี้เป็นสภาพตกท้องช้าง ก่อนที่เครื่องบินใหม่ โบอิ้ง787 จะเริ่มทยอยรับมอบ 45 ลำ

"ที่ผมห่วง มากที่สุดคือ capacity กำลังการผลิตและ supply disruption ความพร้อมของซัพพลายเชน"นายชายกล่าว
*ลุยตลาดจีนเพิ่มสัดส่วนรายได้

นายชายกล่าวว่าจากที่บริษัทได้รับ มอบเครื่องบิน A321 NEO 17 ลำ บริษัทเตรียมรองรับกับเส้นทางบินในจีนในช่วง Winter นี้ตั้งแต่ปลายต.ค. 68-มี.ค. 69 ได้แก่

- เพิ่มความถี่ ปักกิ่ง และกวางโจว จาก 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 14 เที่ยวบิน/สัปดาห์

- กลับมาบินในเมืองเซียเหมิน , ฉงชิง , ฉางชา เปิดทำการบิน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์

- เปิดจุดบินใหม่ 2 เมืองคือ อู่ฮั่น และ เซินเจิ้น ซึ่งจะทำการบิน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์

นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มจุดบินใหม่ ได้แก่ คยา ในอินเดียและเสียมราฐในกัมพูชา

"คนจีนไปต่างประเทศไม่ได้ drop เลย ที่เราบิน ไม่ได้มีเฉพาะผู้โดยสารจีนเรา Connect ไปสู่เมืองต่าง ๆ ต้องไปยุโรป เราไม่ได้นั่งรอเฉยเฉย เราต้องสร้างจุดที่เขาเลือกเราแต่ละเมืองจีนมีประชากร 10 ถึง 20 ล้านคน " นายชาย กล่าว

ปัจจุบัน การบินไทย บิน 5 เส้นทางในจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว เฉิงตู และคุนหมิง ทำการบิน 42 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จากการเพิ่มเส้นทาง เพิ่มความถี่และกลับมาบินครบ 8 เมือง ในจีนจะทำให้รายได้จากตลาดจีนเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวหรือ หรือเป็นประมาณ 10% ของรายได้ จากเดิมมีสัดส่วน 5% และยังช่วยกระจายความเสี่ยงรายได้ให้กับบริษัท

*มั่นใจกำไรปีนี้ยังโตต่อ พร้อมร่วม Thailand Focus 2025

นายชาย กล่าวว่า รายได้ในปี 68 เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.9 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.8 แสนล้านบาท เพราะปีนี้ capacity เพิ่มไม่มาก โดยครึ่งปีแรกปี 68 ทำรายได้. 44,828 ล้านบาท และสามารถสร้าง EBITDA Margin ที่ 22.78% ซึ่งนับว่าสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมเฉลี่ย 11% และในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าการบินไทยจะสามารถรักษา EBITDA Margin ในระดับนี้ได้

"ในไตรมาส2 กำไรจากการดำเนินงานมีอยู่ 6-7 พันล้านบาทถือว่าสูงมากแล้ว กำไรครึ่งปีแรกดีมาก ทั้งปีเราก็ยังเชื่อว่าเราทำได้ตามเป้าหมาย"

โดยในไตรมาส 3/68 แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ในเดือน ก.ค.-ส.ค. อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (cabin factor) ก็ยังอยู่ 70%ต้น ๆ และธุรกิจจะเข้าไฮซีซั่น ในไตรมาส 4 ขณะที่เส้นทางในประเทศ 8 เมืองก็ยังดีอยู่ cabin factor เฉลี่ย 90%

นายชาย กล่าวว่า กลยุทธ์การขายตั๋วแบบ Network ช่วยเติมที่นั่งในช่วงโลว์ซีซั่น ขณะที่การขายตั๋วแบบ point to point ก็ยังให้ความสำคัญเพราะให้มาร์จิ้นดีกว่า โดยปัจจุบันสัดส่วนขายตั๋วแบบ Network อยู่ที่ 20% จากก่อนหน้าไม่ถึง 10% ก็ช่วยทำให้รายได้ของการบินไทย stable ทั้งนี้ การบินไทยมีสัดส่วนจากตลาดยุโรป 35%ของรายได้ เอเชีย 30% ออสเตรเลียกว่า 10% และอินเดียกว่า 10%

"ในไตรมาส 2 กำไรจากการดำเนินงานมีอยู่ 6-7 พันล้านบาทถือว่าสูงมากแล้ว กำไรครึ่งปีแรกดีมาก ทั้งปีเราก็ยังเชื่อว่าเราทำได้ตามเป้าหมาย ...ถ้าบริษัทมีผลประกอบการดี มูลค่าองค์กรก็เพิ่มขึ้นด้วย ผู้ถือหุ้นจะได้ผลตอบแทนในปลายปี"

นายชายกล่าวว่า หุ้น THAI กลับมาเทรดเมื่อ 4 ส.ค. โดยเปิดที่ 10.50 บาท ราคาปรับขึ้นไปสูงสุด 19.40 บาท และราคาก็มีการปรับขึ้นและลงเป็นไปตามแรงเก็งกำไรซึ่งมองเป็นเนื่องปกติ

ทั้งนี้ หุ้น THAI มีจำนวนทั้งสิ้น 28,000 ล้านหุ้น โดยหุ้นที่มาจากการแปลงหนี้เป็นทุนมีถึง 26,000 ล้านหุ้น โดยเจ้าหนี้ได้แสดงความต้องการแปลงหนี้เป็นทุนภาคสมัครใจถึง 3 เท่า ด้วยราคา 2.5452 บาท/หุ้น ขณะที่หุ้นเพิ่มทุนอยู่ที่ 4.48 บาท ซึ่งส่วนนี้ยังถูก Lock up 6 เดือนถึง 1 ปี

นายชายกล่าวว่า หุ้น THAI ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ในวันที่ 27-29 ส.ค.นี้ การบินไทยจะเข้าร่วม งาน Thailand Focus 2025 และพบกับนักลงทุนสถาบันด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ