
"คุณอาจจะไม่รู้เลยว่า คนที่คุณคุยด้วยอยู่ เป็นมนุษย์จริงหรือไม่?" นี่คือคำเตือนจาก Tools for Humanity ตัวแทนทีมผู้พัฒนา World ที่ก่อตั้งโดย Sam Altman ผู้สร้าง ChatGPT กำลังพลิกโฉมการยืนยันความเป็นมนุษย์บนโลกออนไลน์ ด้วยแนวคิดใหม่ในการสร้าง World ID ที่ใช้ม่านตาเป็นกุญแจหลักของ Proof of Human ผ่านการ "สแกนม่านตา" ด้วยเครื่อง "Orb Scanner"
นายภัคพล ตั้งตงฉิน Country Manager จาก Tools for Humanity ตัวแทนจาก World ประเทศไทย เผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า โลกกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่ข้อมูลออนไลน์เต็มไปด้วย Bot และ AI ทำให้เรายากที่จะมั่นใจว่าสิ่งที่เห็นหรืออ่าน หรือกำลังตอบโต้นั้นมาจากมนุษย์จริงหรือไม่?
เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ทีม World จึงพัฒนา World ID ระบบยืนยันตัวตนด้วยอุปกรณ์ทรงกลมชื่อว่า "Orb" ที่จะสแกนม่านตาแล้วแปลงเป็น Iris Code รหัสดิจิทัลเฉพาะบุคคลที่ไม่สามารถย้อนกลับไปสร้างภาพต้นฉบับได้ พร้อมใช้เทคโนโลยี Zero-Knowledge Proof เพื่อยืนยันตัวตน โดยไม่ต้องรู้ว่า "คุณเป็นใคร"
"เราตั้งใจจะไม่เก็บข้อมูลใด ๆ เลย ภาพม่านตาก็ไม่เก็บ โค้ดที่ได้จะเก็บไว้ในมือถือของผู้ใช้เท่านั้น ทำให้ผู้ที่สแกนม่านตา สามารถมั่นใจได้ว่าม่านตาของเขาจะไม่ถูกนำไปใช้ในกรณีอื่น"องค์ประกอบของ World นั้น Tools for Humanity พัฒนา ecosystem ที่ประกอบด้วย 5 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่:
1. World ID - ดิจิทัลพาสปอร์ตที่แสดงว่า "คุณคือมนุษย์" โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ใช้เทคโนโลยี Zero-Knowledge Proof เพื่อยืนยันตัวตนกับแอปต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องบอกชื่อ อีเมล หรือเบอร์โทร
2. The Orb - อุปกรณ์ทรงกลมที่ใช้สแกนม่านตา และแปลงภาพเป็น "Iris Code" ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับมาเป็นภาพต้นฉบับได้ พร้อมลบภาพทิ้งทันทีหลังประมวลผล โดยเปิดให้ตรวจสอบโค้ดแบบ Open Source
3. World App - แอปหลักของผู้ใช้งานที่ใช้ยืนยันตัวตนผ่าน World ID และสามารถเข้าใช้แอปใน ecosystem ได้
4. World Chain - บล็อกเชนที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ที่ยืนยันความเป็นมนุษย์ โดยจัดลำดับความสำคัญในการทำธุรกรรม และลดผลกระทบจากการแทรกแซงของบอทหรือ AI
5. Worldcoin (WLD) - โทเคนหลักที่ใช้ภายในระบบ
"World" ไม่ได้ตั้งใจมาแทนระบบยืนยันตัวตนแบบเดิมอย่าง e-KYC หรือ national ID แต่ต้องการเป็น "ระบบยืนยันความเป็นมนุษย์" ที่ใช้รหัสยืนยันตัวตนกับแพลตฟอร์มทั่วโลก โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องการความน่าเชื่อถือว่ากระทำโดยมนุษย์ เช่น การรีวิว, การโหวต, การโพสต์ในฟอรั่ม หรือการซื้อขายตั๋วคอนเสิร์ตแบบแฟร์ ๆ
ในอนาคตผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนด้วย World ID แล้ว จะสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันใน World App ซึ่งตอนนี้มีพันธมิตรเข้ามาร่วมมากกว่า 400 แอป ทั้งที่พัฒนาโดย World เองและจากพาร์ทเนอร์ภายนอก โดยแอปจะ "เรียกใช้" World ID เพื่อยืนยันว่าเจ้าของบัญชีคือมนุษย์จริง ไม่ใช่ bot
ขณะนี้ World มี "Orb" ติดตั้งตามจุดสำคัญในกรุงเทพฯ เช่น ห้างสรรพสินค้า และไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงอาคารสำนักงานอีกหลายแห่ง โดยเปิดให้ผู้ใช้งานจองคิวผ่าน World App เพื่อไปสแกนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และอยู่ระหว่างการเตรียมขยายไปยังเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเน้นย้ำว่าเป้าหมายคือการสร้าง "Internet Layer ใหม่" ที่มนุษย์มีพื้นที่ปลอดภัยจาก AI Bot และการโจมตีจากความไม่แน่ใจว่าใครคือ "มนุษย์"
ผู้ที่สแกนม่านตาผ่าน Orb แล้วจะได้รับ "World ID" พ่วงด้วย "Worldcoin" ซึ่งเป็นโทเคนดิจิทัลใน Ecosystem นี้ สามารถใช้งานในแอปต่าง ๆ หรือแลกเปลี่ยนผ่านพาร์ทเนอร์ที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น
"เราไม่ใช่ Exchange และเราไม่รับฝาก ไม่ถือเหรียญให้ใคร ทุกอย่างต้องโอนออกไปยังกระเป๋าของผู้ใช้เองทั้งหมด"หนึ่งในความเข้าใจผิดที่ Worldcoin ต้องเจอคือเรื่องการเก็บข้อมูลหรือ "แจกเหรียญล่อให้คนไปสแกนม่านตา" นายภัคพล ยืนยันว่า "เราไม่เก็บข้อมูลอะไรเลย และโปรเจกต์นี้เป็น Public Infrastructure ที่อยากให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ ไม่จำกัดสัญชาติ ไม่ต้องใช้บัตรอะไรเลย แค่เป็นมนุษย์จริงก็พอ"
https://youtu.be/EXTUdYHUXNk