(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนรับแรงกดดันปรับพอร์ต MSCI เกาะติดคดีนายกฯ-ตัวเลขศก.สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 26, 2025 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีเช้านี้คาดดัชนีผันผวน โดยตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับพอร์ตตาม MSCI ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกราว 6 พันล้านบาท ขณะที่การเหวี่ยงของดัชนีเมื่อวานพอใช้ได้ เนื่องจากการเปิดเผยตัวเลขส่งออกดีกว่าคาด โมเมนตัมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลให้ดัชนีมีทิศทางผันผวนระยะสั้นรอการปรับพอร์ต MSCI

โดยสัปดาห์นี้แนะติดตามการจัดงาน Thailand Focus 2025 และปลายสัปดาห์ติดตามประเด็นการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกฯ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ติดตามการเปิดเผย GDP ไตรมาส 2/68 ประมาณการครั้งที่ 2 ของสหรัฐในวันที่ 28 ส.ค.และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE วันที่ 29 นี้

พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,250 จุด และแนวต้าน 1,270 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,282.47 จุด ลดลง 349.27 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,439.32 จุด ลดลง 27.59 จุด หรือ -0.43%, และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,449.29 จุด ลดลง 47.24 จุด หรือ -0.22%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 4242,619.66 จุด ลดลง 188.16 จุด หรือ -0.44%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,714.91 จุด ลดลง 115.00 จุด หรือ -0.45% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,871.47 จุด ลดลง 12.09 จุด หรือ -0.31%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ส.ค.) 1,262.67 จุด เพิ่มขึ้น 9.28 จุด (+0.74%) มูลค่าซื้อขาย 39,908.97 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (25 ส.ค.) 516.36 ลบ.

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.(25 ส.ค.) เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.79% ปิดที่ 64.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ส.ค.) อยู่ที่ 4.25 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.40 แกว่งแคบ ให้กรอบวันนี้ 32.30-32.55 รอติดตามคดีนายกฯ

- "กฤษฎีกา" ตีตกขอใช้เงินงบกลางอุดหนุนมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาท ชี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน รอลุ้น กม. 3 ฉบับ ใช้เวลาอีกนาน มีแวว 1 ต.ค. นี้ ประชาชนไม่ได้ใช้ ขณะที่ "สีแดง-ม่วง" ยุติด้วย ครม.ให้เริ่มพร้อมกันทุกสาย ด้าน พปชร. มองรถไฟฟ้า 20 บาทเป็นไปได้ยาก ชี้รัฐเสี่ยงแบกหนี้แฝงระยะยาว แนะ เน้นเฉพาะเส้นทางที่แรงงานใช้จำนวนมาก ลดต้นทุนการเดินทาง ตั้งกองทุนช่วยเหลือผ่านระบบการ์ดตั๋วเฉพาะบุคคล

- นักวิเคราะห์ประเมินฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังมีโอกาสไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐลดลงและค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ MSCI และปัจจัยการเมืองในประเทศมีผลกระทบน้อยต่อการลงทุน แนะทยอยสะสมหุ้นช่วงตลาดย่อ จับตางาน Thailand Focus 27-29 สิงหาคม 2568 หนุน Sentiment และเม็ดเงินลงทุนเข้าตลาด

- "พาณิชย์" เผยส่งออก ก.ค. มีมูลค่า 28,580 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11% ต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 13 รับแรงหนุนผู้นำเข้าทั่วโลกเร่งนำเข้าสินค้า ปิดความเสี่ยงก่อนภาษีทรัมป์มีผล คาดตั้งแต่ ส.ค.ส่งออกชะลอตัว เตรียมปรับเป้าส่งออกทั้งปีหลัง 7 เดือนโต 14% สรท.ประเมิน ส.ค.-ก.ย.ส่งออกไทยไม่ขยายตัว หลังภาษีทรัมป์มีผล บวกเงินบาทแข็งค่า ซ้ำเติมส่งออกไทย

- "สภาพัฒน์" จับตาผลกระทบเศรษฐกิจกระทบจ้างงาน ประเมินภาษีสหรัฐ ฉุดชั่วโมงการทำงานลง หลังส่งออกแนวโน้มชะลอ เผยรูปแบบจ้างงานช่วง 2 ปี จ้างงานแบบสัญญาจ้าง/พนักงานชั่วคราวไม่เต็มเวลา เพิ่มจาก 4% เป็น 28% ด้านจ้างงานไม่เต็มเวลาเพิ่มจาก 6% เป็น 42% สาเหตุความไม่แน่นอนเศรษฐกิจสูง ภาคธุรกิจลดต้นทุน

- ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.ค.2568 ลดลง 11.39% สวนทางรถไฟฟ้าส่งออกได้ 167 คัน สร้างประวัติศาสตร์ไทย เผยยอดขายในประเทศโต 5.84% เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือน แนะรัฐเร่งอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ห่วงตลาดรถซบยาว

- รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานได้เห็นชอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 69 ภาพรวมกรอบวงเงินใกล้เคียงกับแผนปี 68 โดยคาดก่อหนี้ใหม่ 1.2 ล้านล้านบาท จากแผนการบริหารหนี้ปี 68 มีวงเงินประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท และแผนการชำระหนี้กว่า 400,000 ล้านบาท เป็นไปตาม พ.ร.บ.งบรายจ่ายประจำปี 69 แต่รัฐวิสาหกิจบางแห่งอาจพิจารณานำรายได้มาชำระหนี้เงินกู้เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ แผนการบริหารหนี้ปี 69 จะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเร็วๆ นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 65 บาท คาดโมเมนตัมกำไรไตรมาส 3/68 แม้อาจชะลอ q-q ตามปัจจัยฤดูกาลหน้าฝน แต่คาดยังโต y-y ได้ ด้าน SSSG ก.ค.-ส.ค.ล่าสุดยังทรงตัว y-y แต่ได้แรงหนุน Margin แข็งแกร่งจากสัดส่วนสินค้าอาหารพร้อมทานเพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นมีกลยุทธ์ควบคุมที่ดีและได้อานิสงส์ดอกเบี้ยลดลง ผลกระทบไทย-กัมพูชายังไม่มีนัยฯ ปัจจุบันกลับมาเปิดสาขาหมดแล้ว ขณะที่แผนอนาคตหากได้ economy of scale จะเริ่มสร้าง integrated supply chain มากขึ้นในกัมพูชา เรายังคาดกำไรปี 68 ที่ 2.85 หมื่นลบ. เติบโตแข็งแกร่ง +12% y-y ราคาหุ้นเทรด PER เพียง 14.5 เท่า

- SGC (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 1.09 บาทกำไรไตรมาส 2/68 ยังเดินหน้าบวกต่อเนื่องทั้ง q-q, y-y เป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน หนุนจากสินเชื่อ Lock phone ที่ขยายตัวดี ขณะที่ NPL ยังสามารถควบคุมได้ที่ระดับ 2.2%

คาดแนวโน้มในช่วงถัดไปยังเติบโตต่อเนื่องจากการขยายพอร์ตสินเชื่อ Lock phone และโอกาสต่อยอดขยาย Brand ใหม่ๆ เพิ่มเติม

- GFPT (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 13.40 บาท มุมมองเชิงบวกต่อกำไรในไตรมาส 2/68 ดีกว่าคาดหนุนโดย GPM ดีกว่าคาดด้วยต้นทุนลดลง และคาดไตรมาส 3/68 ยังรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่อง คาดราคาขายไก่ EU จะดีขึ้นราว 6% ในครึ่งปีหลัง พร้อมกับต้นทุนการเลี้ยงลดลงจากการนำเข้าถั่วเหลืองเลี้ยงสัตว์ พร้อมคาดหากไทยนำเข้าข้าวโพดจาก US จะมีต้นทุนถูกลงราว 15-20% เทียบกับการนำเข้าจากเพื่อนบ้านหรือราคาในประเทศ มี upside เพิ่มเติมต่อประมาณการกำไรราว 5-10%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ