(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์อัพ การเมืองชัดเจน ตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำคาดหนุนเฟดลดดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 4, 2025 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์อัพ หลังจากที่ปัจจัยการเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจน และสภาฯมีการบรรจุวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันศุกร์นี้ ทำให้ภาพการเมืองชัดเจนมากขึ้น และนำไปสู่การเลือกตั้งในระยะข้างหน้าในท้ายที่สุด

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยที่มีปัจจัยบวกจากที่มีสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนการลดดอกเบี้ย หลังการรายงานอัตราการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้เป็นปัจจัยที่หนุนต่อ Sentiment ของตลาดหุ้น

โดยให้แนวต้าน 1,265-1,270 จุด แนวรับ 1,240-1,245 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,271.23 จุด ลดลง 24.58 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,448.26 จุด เพิ่มขึ้น 32.72 จุด หรือ +0.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,497.73 จุด เพิ่มขึ้น 218.10 จุด หรือ +1.02%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดลบ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 42,093.70 จุด เพิ่มขึ้น 154.81 จุด หรือ +0.37%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,489.13 จุด เพิ่มขึ้น 145.7 จุด หรือ +0.57% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,807.76 จุด ลดลง 5.80 จุด หรือ -0.15%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ก.ย.) 1,259.31 จุด เพิ่มขึ้น 10.53 จุด (+0.84%) มูลค่าซื้อขาย 44,707.38 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (3 ก.ย.) 1,889.90 ลบ.

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. (3 ก.ย.) ลดลง 1.62 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 63.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ก.ย.) อยู่ที่ 4.46 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.29 แข็งค่ารับดอลลาร์อ่อน หลังตัวเลขว่างงานสหรัฐแย่กว่าคาด จับตาเงินเฟ้อไทยวันนี้

- "บรรยง" หวั่นการเมืองคลุมเครือกระทบเศรษฐกิจ อย่างน้อย 4 เดือน นักธุรกิจไม่กล้าลงทุน "สมชัย" จับตารัฐบาลชั่วคราวอัดประชานิยมก่อนเลือกตั้งใหม่ แม้เสี่ยงถูกตีความทางกฎหมาย แนะวางแผนรับมือผลกระทบภาษีทรัมป์ กกร.ชี้ การเมืองเพิ่มแรงกดดันเศรษฐกิจ ระบุมีรัฐบาลอายุสั้นชั่วคราวไม่ใช่ทางออกประเทศ ห่วงเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า

- ท่ามกลางคลื่นลงทุนที่ ไหลบ่าออกจากจีนด้วยแรงบีบจากสหรัฐ "ไทย" กำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของ ผู้ผลิตแผงวงจรพิมพ์ PCB ฟันเฟืองสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน AI บริษัทชั้นนำจากจีนและไต้หวันเกือบ 60 รายเร่งเข้ามาปักฐาน หวังใช้ไทยเป็นอีกหนึ่ง "ฮับ PCB" ของโลก

- "รฟท." ส่งฝ่ายกฎหมายร้องดีเอสไอ เอาผิดกลุ่มบุคคล-จนท.รัฐถือครองที่ดินเขากระโดง กกต.ส่อยุติเรื่องปมร้องสอบ ยุบ 6 พรรคกินมาม่าบ้านจันทร์ส่องหล้า ยอม "ทักษิณ" ชี้นำครอบงำตั้งรัฐบาลแพทองธาร เหตุไร้พยานหลักฐานเอาผิด

- กกร.เผยภาษีทรัมป์ทำเศรษฐกิจโลกปั่นป่วน ลั่นคงอัตราขยายตัว GDP อยู่ที่ 1.8-2.2% มองแนวโน้มครึ่งปีหลังอืด ขยายตัวได้แค่ 1% ด้าน "พิชัย" การันตีการเมืองไม่กระทบเชื่อมั่นนักลงทุน-เครดิตประเทศ

- "คลัง" กางยอดจัดเก็บรายได้ 10 เดือน อยู่ที่ 2.25 ล้าน ล.บาท พลาดเป้า 3.76 หมื่น ล.บาท ด้าน "สรรพากร-สรรพ สามิต-ศุลกากร" ฟอร์มตก จัดเก็บรวมวืดเป้า 7.45 หมื่น ล. โอดสถานการณ์เศรษฐกิจเปลี่ยน

- โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมเดือน ส.ค.68 อยู่ที่ระดับ 47.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย จากความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายของครัวเรือน ประกอบกับภาคส่งออกที่อาจส่งผลกระทบจากนโยบายการค้าและภาษีของประเทศคู่ค้าหลัก สินค้าเกษตรไทยที่เผชิญกับการแข่งขันสูง การท่องเที่ยวชะลอตัว และสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา

*หุ้นเด่นวันนี้

- MTC (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45.00 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 2H25 ยังคงเติบโต ทั้ง y-y และ h-h จากรายได้ดอกเบี้ยที่โตต่อเนื่อง การตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลง โดยคุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

ผสานแรงหนุนเชิงบวกจากการเมืองไทยเริ่มมีความชัดเจนขึ้น คาดจะเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์มากยิ่งขึ้น

- CPALL (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ยู่ที่ 6,768 ลบ.(+8%YoY, -11%QoQ) อ่อนตัวQoQ ตามฤดูกาล และ YoY กดดันอยู่บ้างจากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า/ความเย็นฝั่ง CPAXT แต่กำไรยังเป็นบวกได้อยู่หนุนจากมาร์จิ้นที่ดีตามสัดส่วน7-11 ที่สูงขึ้นรวมถึงการเน้นกลยุทธสินค้า Ready-to-Eat ส่วนการดำเนินงานปกติในช่วงไตรมาส 3/68 เบื้องต้นคาดอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ YoY ยังเป็นบวกได้แม้คาด SSSG 7-11 ยัง Flat YoY(ต่อจาก 2Q68 ที่ -0.8%YoY) แต่ยังได้แรงหนุนจากสาขาเปิดใหม่และการคุมมาร์จิ้นที่ดี ขณะที่สินค้าออกใหม่เป็นที่นิยม เช่น กาแฟกระป๋องสตาร์บัคส์ ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ CPALL ที่ 28,013 ลบ.(+11%YoY) และ 29,692 ลบ.(+6%YoY)

- HANA (ไอร่า)"ย่อซื้อเล่นรอบ" ในเชิงกลยุทธ์ เรากลับมามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อ HANA เราคาดว่าตลาดอาจจะคาดหวังผลประกอบการของ HANA คาดจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน ไตรมาส 2/68 และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้แบบค่อยเป็นค่อยไปใน 2H68 จากงาน Project AI (Solid State Cooling) ที่คาดจะเริ่มทยอยเข้ามา คาดจะเป็นปัจจัยช่วยจำกัด Downsideและเพิ่ม Upsideของ HANA ในระยะถัดไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ