นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มากุโระ กรุ๊ป [MAGURO] เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/68 คาดว่า รายได้จะทำ All Time High และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) มีโอกาสทำสถิติสูงสุดด้วย โดยคาดว่าในไตรมาส 3/68 บริษัทจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit margin) ที่ระดับ 48% จากการเปิดสาขาใหม่ 3 แบรนด์ที่เซ็นทรัล พาร์ค
อย่างไรก็ดี รายได้จากสาขาเดิม (Same Store Sales Growth: SSSG) กลับลดลง ซึ่งในช่วง 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) -5% ซึ่งลดลงจากไตรมาส 2/68 ที่ยอดขายลดลง 9.8% และคาดว่าจบไตรมาส 3 จะลดลงต่ำกว่า 5% แม้ว่าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง แต่บริษัทได้ปรับตัวการบริหารจัดการต้นทุนให้ดีขึ้น
โดยใช้กลยุทธ์หลายทาง ทั้งการทำแคมเปญที่ปีนี้จัดฉลองครบรอบ 10 ปี มีการออกเมนูที่เป็น Seasonal Menu เป็นรายไตรมาส การปรับราคาสินค้าลงไม่ได้เป็นการลดราคาแต่เป็นการทำราคาเมนูที่ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบบางอย่างที่ได้ราคาถูกลงจากที่มีอำนาจต่อรองมากขึ้น ทำราคาที่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า รวมถึงพัฒนาการให้บริการที่ดีขึ้น ทั้งนี้การปรับลดราคาอาหารหรือแคมเปญต่าง ๆ ไม่ได้กระทบกับ Gross Profit margin และการมีร้านอาหารหลายแบรนด์ช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนกลางลดลง เกิด Economy of Scale รวมถึงนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
นายจักรกฤติ กล่าวมั่นใจว่าในปี 68 นี้ยังคาดว่าเป้าหมายรายได้จะเติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,370 ล้านบาท และมั่นใจว่าทั้งรายได้และกำไรสุทธิ อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิจะสามารถทำ All Time High เพราะมีสาขาเพิ่มขึ้น
"ปีนี้น่าจะ All Time High ทั้งหมด ทั้งรายได้ Net Profit Margin เรียกว่าทุกบรรทัดทำ All Time High หมด ปีนี้เราเปิด 15 สาขา ในสภาะเศรษฐกิจแบบนี้ผมถือว่าเยอะ ดูจาก Player อื่น ๆ เขาก็ชะลอการขยายตัว บางที่ปิดสาขาด้วยซ้ำสาขาเดิม สาขาใหม่ก็หยุดก่อสร้าง เราน่าจะเป็นไม่กี่รายได้ขยายได้ในระดับนี้" นายจักรกฤติ กล่าวในปีนี้ บริษัทเปิดสาขาใหม่แล้ว 11 แห่ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ MAGURO จะเปิดสาขาใหม่อีก 4 แห่ง ได้แก่ ร้าน HITORI SHABU ที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ , Tonkatsu AOKI ร้านหมูทอดทงคัตสึ สาขาไอคอนสยาม , สาขาเมกาบางนา และ ร้าน MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่น สาขาพุทธมณฑลสาย 3 ทำให้สิ้นปีนี้ MAGURO จะมีสาขารวม 53 สาขาจากปีก่อนมี 38 สาขา โดยปัจจุบันมี 49 สาขา 7 แบรนด์ โดยแบรนด์ร้าน MAGURO มีจำนวน 19 สาขาคิดเป็นสัดส่วน 50% ของรายได้
ส่วนในปี 69 นายจักรกฤติ วางเป้าหมายรายได้เติบโต 30% โตต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท และเปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่า 15 สาขา หรืออาจเปิด 20 สาขา โดยตั้งงบลงทุนไว้ 200 ล้านบาทใกล้เคียงปีนี้ ที่มีแหล่งเงินจากเงิน IPO และกระแสเงินสดของบริษัท แต่หากมีโอกาสธุรกิจเข้ามาก็อาจจะระดมทุนเพิ่มได้ และในระยะถัดไปเตรียมขยายไปต่างจังหวัด อาทิ พัทยา 1-2 แห่ง
ทั้งนี้ บริษัทจะไม่ให้น้ำหนักปัจจัยเศรษฐกิจมากนักเพราะจะทำให้การเติบโตชะงัก แต่เราจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยวางเป้าหมายให้แบรนด์ร้านอาหารของบริษัทอยู่ใน Top of Mind และมีโอกาสจะเปิดแบรนด์ใหม่ โดยจะเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันน้อย และแบรนด์ใหม่สร้างอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี อย่างที่เคยทำมา เช่นร้านทงคัตสึ
นายจักรกฤติ กล่าวว่า บริษัทได้ขยายสาขาร้านอาหารในกลุ่ม 3 แบรนด์ ได้แก่ MAGURO Kappou, HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกี้ยากี้สูตรต้นตำรับสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และ KIWAMIYA ร้านแฮมเบิร์กและสเต็กเนื้อวากิวต้นตำรับจากญี่ปุ่น จากเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ของกลุ่ม โดยทั้ง 3 ร้านมีงบลงทุน 40 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนใน 1 ปีครึ่ง
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ที่เข้าใจผู้บริโภค ตอบโจทย์คนทุกรุ่น และด้วย ศูนย์การค้า "เซ็นทรัลพาร์ค" ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่ไม่อาจหาได้อีกแล้ว บนถนนพระราที่ 4 ติดกับถนนสีลม นอกจากนี้ยังมีคอนโดมิเนียมของโครงการนี้ที่มียอดขายไปแล้วกว่า 80% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย เมื่อเปิดกลางปี 69 เชื่อว่ามีผู้เข้ามาอาศัยอยู่จริง ขณะที่อาคารออฟฟิศก็เปิดในวันนี้เช่นกัน
การมาเพิ่มสาขาที่เซ็นทรัลพาร์คจะทำให้แต่ละแบรนด์ร้านอาหารของ MAGURO เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งเรามองสาขาที่นี่เหมือนสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิล ด์ที่ราคาค่าเช่าเหมือนกัน ส่วน One Bangkok เราก็มีสาขาอยู่ที่นั่นจึงไม่กังวลที่จะดึงลูกค้ากัน