บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อปี ตามที่เราคาด มอง SET Index มีโอกาสเห็นการตอบรับเชิงลบในระยะสั้น ท่ามกลางความผิดหวังของนักลงทุน หลังตลาดคาดเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง สะท้อนจาก Survey ของ Bloomberg ที่คาดว่า กนง.รอบนี้จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.25%
ในทางกลับกันเรามองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เนื่องจากการคงอัตราดอกเบี้ยจะไม่เพิ่มแรงกดดันต่อ NIM นอกจากนี้ เรามองหุ้นในกลุ่มธนาคารยังมีความน่าสนใจในการเก็งงบไตรมาส 3/68 คาดว่ากำไรของทั้งกลุ่ม (นับเฉพาะที่เราศึกษา) จะเติบโต 3.9% YoY และ 0.4% QoQ ประกอบกับ หุ้นในกลุ่มมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากโครงการคนละครึ่งพลัส สอดรับกับสถิติโครงการคนละครึ่งในเฟส 1-5 ซึ่งพบว่าในช่วงดำเนินโครงการกลุ่มธนาคารมีผลตอบแทนเฉลี่ย 15.1% นับว่า Outperformed เมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบเฉลี่ยของ SET Index ที่ 6.9%
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ "เก็งกำไร" หุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่คาดงบไตรมาส 3/68 จะออกมาดี และมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ Outperformed เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มธนาคารในช่วงดำเนินโครงการคนละครึ่ง เมื่อพิจารณาจากสถิติโครงการคนละครึ่งในเฟส 1-5
KBANK: 1) คาดกำไร ไตรมาส 3/68 ขยายตัว 6.4% YoY และ 2.0% QoQ และ 2) จากสถิติโครงการคนละครึ่งในเฟส 1-5 มีผลตอบแทนเฉลี่ย 20.6%
KTB: 1) คาดกำไร ไตรมาส 3/68 ขยายตัว 12.4% YoY และ 12.2% QoQ และ 2) จากสถิติโครงการคนละครึ่งในเฟส 1-5 มีผลตอบแทนเฉลี่ย 13.2%
SCB: 1) คาดกำไร ไตรมาส 3/68 ขยายตัว 16.1% YoY ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มสำหรับ YoY และ 2) จากสถิติโครงการคนละครึ่งในเฟส 1-5 มีผลตอบแทนเฉลี่ย 16.8%
ทั้งนี้ แม้ KTB จะมีผลตอบแทนเฉลี่ย Underperform เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มธนาคาร แต่ KTB เป็นธนาคารที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งมากที่สุด สอดรับกับการที่เป็นผู้ดำเนินการแอปฯเป๋าตัง