(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์เกาะติดชัดดาวน์สหรัฐ ระทึกศาลฎีกาตัดสินคดีภาษีทรัมป์ 5 พ.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 3, 2025 09:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์สร้างฐานในกรอบจำกัด ระหว่างที่นักลงทุนรอติดตามการทยอยรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งสถานการณ์ชัตดาวน์รัฐบาลของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม แม้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยหลังขาดข้อมูลในการตัดสินใจแต่ทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นขาลง

ขณะเดียวกัน สัปดาหนี้จับตาสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ ซึ่งจะครบสถิติ 35 วันที่ใช้ระยะเวลานานที่สุด หากยังยืดเยื้ออาจมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมามากขึ้น เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่ใช้ตัดสินใจลงทุนและประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

สำหรับสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่บรรลุข้อตกลงสงบศึกทางการค้าเป็นเวลา 1 ปี มองว่าตลาดเริ่มให้น้ำหนักเรื่องนี้น้อยลง แต่ยังต้องติดตามศาลฎีกาสหรัฐพิจารณาคดีภาษีการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดเช่นเดียวกัน ด้านปัจจัยในประเทศติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้

โดยให้กรอบแนวรับ 1,300 จุด และแนวต้าน 1,325 - 1,330 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (31 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,562.87 จุด เพิ่มขึ้น 40.75 จุด หรือ +0.09%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,840.20 จุด เพิ่มขึ้น 17.86 จุด หรือ +0.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,724.96 จุด เพิ่มขึ้น 143.81 จุด หรือ +0.61%

- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดผันผวน ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,999.17 จุด เพิ่มขึ้น 92.52 จุด หรือ +0.36% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,954.08 จุด ลดลง 0.71 จุด หรือ -0.02% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันวัฒนธรรม

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ต.ค) 1,309.50 จุด ลดลง 5.15 จุด (-0.39%) มูลค่าซื้อขาย 32,552.48 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (31 ต.ค) 537.79 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. (31 ต.ค) เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 60.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ต.ค) อยู่ที่ 8.52 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.47 แนวโน้มอ่อนค่า คาดกรอบวันนี้ 32.35-32.55

- 'คนละครึ่งพลัส' 5 วันทะลุ 1 หมื่นล้าน 'อนุทิน' หัวโต๊ะ ครม.ศก.วันนี้ ถกแก้หนี้เอ็นพีแอลต่ำกว่า 1 แสน 'ธรรมนัส' ฟื้นโครงการ ถนนยางพารา ร่วม มท.ลุย '1 ตำบล 1 กม.'

- "ไทย-สหรัฐ" ลุยเจรจาข้อตกลงการค้า "ต่างตอบแทน" หลังสหรัฐเก็บภาษีตอบโต้สินค้าไทย 19% พ่วงเงื่อนไขกว่า 10 ประเด็น เร่งหาข้อสรุปในปีนี้ "อนุทิน" ใช้เวทีอาเซียน-เอเปคขอ "ลดภาษี-ปรับเงื่อนไข" "เอกนิติ" ลุ้นสหรัฐลดภาษีเพิ่ม หลังร่วมมือแร่หายาก

- "พิพัฒน์" เร่งนโยบายรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน ใช้ได้ครบทุกสีทุกสายภายในรัฐบาลนี้ สั่ง รฟม.หารือ "คลัง" เคาะแนวทางซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าให้จบภายใน 6 พ.ย.นี้ ก่อนชง ครม. 25 พ.ย. จ่อลดค่าทางด่วน 50 บาทตลอดสายทุกเส้นทาง มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

- 'เครดิตบูโร' หนุนโครงการแก้หนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาท เตรียมส่ง 'โปรไฟไหม้' ล้างประวัติดันเป็นลูกหนี้ดีทันทีสำหรับรายที่เข้า AMC เพื่อสังคม ยันไม่ต้องแก้กฎหมาย ทำได้เลย เคาะกลุ่มเป้าหมาย 2.5-2.7 ล้านราย

- เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)เผย ส.ป.ก.ได้ระดมเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะนโยบายด้านการเร่งรัดออกโฉนดเพื่อการเกษตร วางเป้าหมายให้แล้วเสร็จ 200,000 แปลง ภายในปี 69 ส่วนผลงานปี 67-68 ที่ผ่านมา ได้จัดทำโฉนดแล้ว 854,703 แปลง 9.31 ล้านไร่

*หุ้นเด่นวันนี้

- WASH (ฟินันเซีย ไซรัส) ประเมินมูลค่าเหมาะสม 9.30 บาท อิง P/E 20x มี premium กว่ากลุ่มจากการเติบโตสูง ธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรภายใต้แบรนด์ "WashXpress" เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงสิบปีด้วยจำนวนสาขากว่า 548 แห่ง ครอบคลุม 21 จังหวัดทั่วประเทศ จุดแข็งของโมเดลธุรกิจคือการสร้างรายได้แบบ Recurring income จากบริการที่เป็นความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เงินที่ได้จาก IPO จะนำไปขยายและปรับปรุงสาขา บริษัทตั้งเป้าขยาย 80 สาขาต่อปีในช่วงปี 68-70 ทำให้เราคาดกำไร +31% CAGR

- PTTEP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 127.00 บาท มองเชิงบวกมูลค่าน่าสนใจซื้อขายราว -1SD (PBV 0.8x, PE 7.x) และให้ Dividend Yield กว่า 7% หรือราว 8.5 บาท/หุ้น โดยยังมีโอกาสรักษาจ่ายปันผลใกล้ ระดับปี 2567 ที่ 9.5 บาท/หุ้น จากฐานะการเงินแข็งแกร่ง (IBD/E เพียง 0.24x ใน ไตรมาส 2/68) และกระแสเงินสดอิสระที่มั่นคง ในเชิงกลยุทธ์คาดอาจ Outperform ในไตรมาส 4/68 จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่มักปรับขึ้น 1420% ใน 312 เดือนหลังเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย อีกทั้ง IEA, OPEC และ EIA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 68-69 ขณะที่สต๊อก middle distillate ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และฤดูหนาวจะหนุน GRM เพิ่มแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน โดย PTTEP มีสัดส่วน ยอดขายจากน้ำมันดิบราว 30% ซึ่งจะได้ประโยชน์โดยตรง

- SPRC (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกยุทธ์ 6.00 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/68 จะพลิกมาเป็นบวก จากในช่วง ไตรมาส 2/68 และ ไตรมาส 3/67 ที่ขาดทุนราว -812 ล้านบาท และ -2,216 ล้านบาท ตามลำดับ แรงหนุนจากค่าการกลั่น ฟื้นตัว และคาดจะบวกต่อเนื่องในช่วง ไตรมาส 4/68 ด้าน Valuation ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยเทรด เพียง PBV ราว 0.5 เท่า อยู่ในระดับน่าสะสม

- WHAUP (คิงส์ฟอร์ด) ซื้อ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.08 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/68 มีโมเมนตัมเชิงบวก ตามการเติบโตที่แข็งแกร่งของลูกค้ากลุ่ม data center ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ excessive charge จากการใช้น้ำเกินโควต้ายังดีต่อเนื่องไปยังปี 2569 ส่วน margin ของโรงไฟฟ้ามีแนวโน้มดีขึ้นตามต้นทุนก๊าซที่ลดลง ขณะที่ผลกระทบของ Gheco-1 และ FX loss ก็มีแนวโน้มลดลงด้วย ทั้งนี้ IAA consensus คาด Dividend Yield ที่ 6% และคาด กำไรปี 2568 และ 2569 ที่ 1,160 ล้านบาท +4%YoY และ 1,460 ล้านบาท +26%YoY ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ