นายภณภัทร เมฆาสุวรรณดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง [IROYAL] เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/68 บริษัททำรายได้รวม 149 ล้านบาท เติบโตขึ้นจาก 22 ล้านบาทในไตรมาส 3/67 หรือเพิ่มขึ้น 609% และเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/68 และกำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีนี้ โดยอัตราการเติบโตสูงสุด (New High) ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากรับรู้รายได้กลุ่มธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจวางระบบสื่อสาร ธุรกิจวิศวกรรมบริการตรวจสอบและซ่อมบำรุงเพื่อสนับสนุน การสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียม เช่นเดียวกันทั้ง 2 ไตรมาส นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานสามารถสร้างการเติบโตที่ขยายตัวอย่างมั่นคงได้ในทุกไตรมาส โดยเกิดจากการทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ของงานโครงการมูลค่าสูงตามโรคแมพที่ได้วางไว้
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนประจำปี 68 บริษัทมีรายได้รวม 325 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 133% และมีกำไรสุทธิรวม 93.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 99% บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้รวมในปีนี้เติบโต 50-60% จากปีก่อนหน้า โดยพิจารณาจากความสำเร็จในโครงการต่างๆ ที่ได้เข้าร่วมและชนะการประมูล ทั้งนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอรับรู้รายได้ (backlog) สะสมกว่าอีก 625 ล้านบาท รวมถึงเตรียมแผนการในการประมูลโครงการมูลค่าสูง ทั้งในกลุ่มธุรกิจสนับสนุนการสำรวจ และขุดเจาะปิโตรเลียม กลุ่มธุรกิจสื่อสารระบบเครือข่ายและเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจในการตั้งเป้ากรอบงานระยะ 3 ปี โดยจะเติบโตในแต่ละปีเฉลี่ย (CAGR) ประมาณ 50%
นางสาวประภาพรรณ ประภัทรโพธิพงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IROYAL เปิดเผยว่า การสร้างนิวไฮต่อเนื่องของผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/68 ตอกย้ำความสำเร็จของแผนธุรกิจที่มีทิศทางและสร้างการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรม เป็นไปตามโรคแมพที่ได้วางเอาไว้
นอกจากการส่งมอบงานในโครงการต่างๆ ตามแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว บริษัทยังเดินหน้าขยายโอกาสเติบโตใหม่อย่างต่อเนื่องที่ขับเคลื่อนโดยความต้องการงานด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี และพลังงานที่เพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรม โดยรุกเข้าสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ได้แก่ ธุรกิจอุตสาหกรรมสำรวจ ขุดเจาะปิโตรเลียม และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีโทรคมนาคม ซึ่งทั้งสองกลุ่มธุรกิจถือเป็น New S-curve ที่จะสร้างความแข็งแกร่งและสร้างรายได้ให้กับบริษัทในระยะยาว รวมถึงเติมเต็ม Ecosystem ของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น