TEGH มั่นใจรายได้รวมทั้งปีทะลุ 2 หมื่น ลบ.ทำ All Time High ตามนัด ยาง-ปาล์ม-พลังงานทดแทนหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 17, 2025 16:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

TEGH มั่นใจรายได้รวมทั้งปีทะลุ 2 หมื่น ลบ.ทำ All Time High ตามนัด ยาง-ปาล์ม-พลังงานทดแทนหนุน

นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ [TEGH] เปิดเผยว่า "แนวโน้มรายได้รวมในปีนี้คาดว่าจะสูงกว่า 20,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ตามแผนงานที่วางไว้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมียอดขายยางแท่งมาตรฐาน EUDR ที่เติบโตตามเป้าหมาย ธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบยอดขายเพิ่มขึ้น และความสามารถในการทำกำไรเริ่มกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้แล้ว และธุรกิจพลังงานทดแทนฯ ที่สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น จากการขยายกำลังการผลิตไปเมื่อปลายปีที่แล้ว"

นอกจากนี้ TEGH ยังเดินหน้าตามแผน นำบริษัทย่อย คือ บมจ.ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ [TEBP] เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในต้นปี 2569 เพื่อระดมทุนขยายกำลังการผลิตเฟสใหม่ รองรับความต้องการของลูกค้า เสริมศักยภาพการเติบโตในกลุ่มพลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Leading Green Energy Revolution: Pioneering the Net Zero Solution

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/68 สำหรับงวด 3 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.68) กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวม 4,757.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ลดลง 11.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) และมีกำไรสุทธิ 50.6 ล้านบาท ลดลง 76.9% YoY ลดลง 76.1% QoQ โดยมีสาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาขายและราคาวัตถุดิบยางแท่งลดลง

ขณะที่ปัจจัยบวกสำคัญในไตรมาสนี้ มาจากการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่ดี มีการกระจายตัวของฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้ง จีน อินเดีย และสหรัฐฯ ขยายตัว ขณะเดียวกันยางแท่งเกรดมาตรฐาน EUDR ก็เริ่มกลับมามีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นนอกจากลูกค้ากลุ่มยุโรป เช่น ลูกค้าเกาหลีใต้และจีน ถือเป็นสัญญาณที่ดีหลังสหภาพยุโรปประกาศยืนยันไม่เลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย EUDR แม้ตลาดยุโรปมีการชะลอคำสั่งซื้อในไตรมาส 3/68 แต่คาดว่า จะทยอยกลับมาในไตรมาส 4/68

ขณะที่ความต้องการใช้ยางพาราในปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยประเทศที่มีความต้องการเติบโตชัดเจน ได้แก่ จีน และ อินเดีย และสหรัฐอเมริกา รวมถึงตลาดในประเทศ ส่วนประเทศญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ความต้องการยางแท่งเกรดมาตรฐาน EUDR เริ่มมีสัญญาณขยับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับธุรกิจปาล์ม ปริมาณขายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) สะสม 9 เดือน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ทำให้มีผลประกอบการดีขึ้นใน 2 ไตรมาสหลัง และยังมีโอกาสต่อยอดเพิ่มมูลค่าผ่านการรับรองมาตรฐาน ISCC Plus และ ISCC EU เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความต้องการจากตลาดพลังงานทดแทน โดยเฉพาะเชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน (SAF) ในอนาคต

ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ยังคงรักษามาตรฐาน มีการเติบโตต่อเนื่องในด้านปริมาณการขายและให้บริการ แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง พร้อมหน้าโครงการขยายกำลังการผลิตเฟสใหม่ตามแผน เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว

สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯในงวด 9 เดือนปี 2568 มีรายได้รวม 15,825.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.2% และมีกำไรสุทธิ 438.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 383.6 ล้านบาท

โดยสัดส่วนรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติอยู่ที่ 85% ธุรกิจจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ 14% และธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ 1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ