นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี [TKS] กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 ช่วงโค้งสุดท้ายของปี คาดว่ามีการเติบโตที่ดี จากการปรับแผนและปรับโครงสร้างธุรกิจ มุ่งหน้าสู่การเป็น "Tech Ecosystem Builder" เพื่อรับมือให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล ปัจจุบัน TKS มุ่งขยาย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการพิมพ์และคลังสินค้า (Image & Security Fulfillment) ธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล (Platform Solutions) ธุรกิจจัดจำหน่าย IT และระบบสารสนเทศ (IT & Digital Ecosystem) และการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ (Tech Investment) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง รวมทั้ง การลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยรวม สำหรับรักษาฐานธุรกิจเดิมควบคู่ไปกับการหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ มั่นใจ ในปี 2568 จะเห็นการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และเดินหน้าสู่เป้าหมายรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับ 30-35%
"เรามุ่งมั่นทรานส์ฟอร์มจากธุรกิจสิ่งพิมพ์สู่การสร้าง Ecosystem ที่แข็งแรงและยั่งยืน ผ่านการลงทุน เทคโนโลยี และพันธมิตรที่มีคุณภาพ เพื่อเสริมศักยภาพของลูกค้า พร้อมผลักดันการเติบโตขององค์กรและเศรษฐกิจประเทศไปพร้อมกัน ด้วยการได้รับการยอมรับด้านการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและยั่งยืน" นายสุพันธุ์ กล่าวภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,059.3 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อยที่ 7.3% แต่บริษัทสามารถสร้างกำไรสุทธิรวมที่ 187.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 612.5% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 174.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.9 ล้านบาท หรือ 856.6% หนุนจากการรับรู้กำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมทำได้ถึง 146.9 ล้านบาท และรับรู้ผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัท PTECH ลดลง 128.8 ล้านบาท ขณะที่เงินปันผลรับจากการลงทุนรวมอยู่ที่ 45.9 ล้านบาท
แม้รายได้จากโครงการพิเศษกลุ่มธุรกิจการพิมพ์ กลุ่มบรรจุภัณฑ์และฉลากชะลอตัว แต่ TKS ยังสามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง พร้อมทั้งรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับ 35.6% และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 0.31 เท่า สะท้อนฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
ส่วนไตรมาส 3/68 TKS มีรายได้จากการขายและบริการ 350 ล้านบาท แม้ลดลง 5.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่เติบโต 6.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เนื่องจากการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจการพิมพ์ปลอดปลอม (Security Printing) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นแตะ 36% จากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นการขยายกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 76.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 138.4% จากปีกก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 83.4% เมื่อเทียบไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) โดยเฉพาะผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนหลักของ Tech Ecosystem สนับสนุนกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปีนี้อยู่ที่ 88.2 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 86.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2% YoY และเพิ่มขึ้น 621.7% QoQ