นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา [CENTEL] กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 69 ในส่วนของธุรกิจโรงแรมจะเติบโตได้ในระดับตัวเลข 2 หลัก โดยที่ในส่วนของธุรกิจโรงแรมนั้นยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการที่มีการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีมากขึ้นจากโรงแรมที่บริษัทได้รีโนเวทแล้วเสร็จ โดยเฉพาะโรงแรมในพัทยา หัวหิน และกระบี่
ขณะที่ในส่วนของยอดจองโรงแรมยังมีแนวโน้มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปลายปี 68 ซึ่งเห็นยอดจองห้องพักมีการปรับตัวขึ้นอย่างมาก ส่วนหนึ่งมาจากช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ทำให้มีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น และดันให้ยอดจองโรงแรมของบริษัทในไตรมาส 1/69 คาดว่าจะเติบโตได้ 10-15% โดยเฉพาะยอดจองห้องพักในโรงแรมมัลดีฟส์ที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 60%
ด้านธุรกิจอาหารของบริษัทแม้ว่าจะเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงทีผ่านมายังมีการชะลอตัวลงไปบ้าง แต่คาดว่าในปี 69 คาดว่ามีโอกาสที่ฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง จากแบรนด์ร้านอาหารในกลุ่ม 8 แบรนด์หลัก และร้านอาหารในกลุ่มที่บริษัทเข้าไปร่วมลงทุน ซึ่งล่าสุดการที่บริษัทเข้าถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบรนด์ร้านอาหาร "ลัคกี้ สุกี้" และ "ลัคกี้ บาบีคิว" ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เข้าเสริมการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจอาหารในปี 69 ซึ่งคาดว่ายอดขายในปี 69 จะสามารถเติบโตได้ในระดับตัวเลข 2 หลัก
ส่วนการที่บริษัทเข้าถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบรนด์ร้านอาหาร "ลัคกี้ สุกี้" และ "ลัคกี้ บาบีคิว" นั้น มาจากการที่บริษัทได้มีการมองหาโอกาสในการเพิ่มพอร์ตของร้านอาหารในช่วงกลางคืน-รุ่งเช้า ที่จะเข้ามาเติมเต็มช่วงเวลาการให้บริการของร้านอาหารในเครือที่สามารถให้บริการได้ 24 ชั่วโมง และมีประเภทของร้านอาหารที่มีความหลากหลาย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้บริษัทมีการตัดสินใจลงทุนในดีลดังกล่าว
ด้านงบลงทุนรวมในปี 69 วางไว้ที่ 5.5-6 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นการใช้รองรับการปรับปรุงโรงแรมราว 4.5 พันล้านบาท และใช้ในการมองหาโอกาสในการเพิ่มร้านอาหารใหม่เข้ามาในเครืออีกราว 1-1.5 พันล้านบาท