นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัยสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพตามทิศทางหุ้นสหรัฐฯ ที่ได้แรงหนุนโอกาสที่มากขึ้นในการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้
ขณะที่ในประเทศมี Sentiment บวกจากราชกิจจานุเบกษาประกาศเกณฑ์ซื้อหุ้นคืนใหม่ เปิดทางทำโครงการได้ต่อเนื่องไม่ต้องรอเว้นวรรค 6 เดือน ทำให้การซื้อหุ้นคืนของบริษัทจดทะเบียนยืดหยุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อวานดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงรับแรงดดันจากกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นหลายตัวปรับตัวลงแรง จากการที่สหรัฐฯ พยายามผลักดันอีเทนรัสเซีย ทำให้ราคาน้ำมันเมื่อวานปรับตัวลงมา แต่วันนี้ราคาน้ำมันดีดตัวกลับขึ้นมาแล้วน่าจะทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานดีดกลับมาได้
ประเด็นอื่นๆ แนะติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งจากกระแสน้ำเริ่มลดลง ทำให้คาดว่าความกังวลต่าง ๆ เกี่ยวกับผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้น
โดยให้กรอบแนวรับ 1,255 จุด และแนวต้าน 1,270 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,427.12 จุด เพิ่มขึ้น 314.67 จุด หรือ +0.67%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,812.61 จุด เพิ่มขึ้น 46.73 จุด หรือ +0.69% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,214.69 จุด เพิ่มขึ้น 189.10 จุด หรือ +0.82%
- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวก ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 49,868.79 จุด เพิ่มขึ้น 309.72 จุด หรือ +0.62%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,945.54 จุด เพิ่มขึ้น 17.46 จุด หรือ +0.07% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,867.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด หรือ +0.08%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 พ.ย.) 1,261.18 จุด ลดลง 7.60 จุด (-0.60%) มูลค่าซื้อขาย 34,979.31 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (26 พ.ย.) 494.53 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. (26 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.21% ปิดที่ 58.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 พ.ย.) อยู่ที่ 4.62 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.22 ทรงตัวจากวานนี้ แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 32.15-32.30
- สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ รุนแรงขึ้น ปภ.รายงานผู้ได้รับผลกระทบ 9 จังหวัดพุ่ง 2.7 ล้านคน เฉพาะสงขลา 8.3 แสนคน "คลัง" จ่อคลอด 3 มาตรการ "บรรเทา เยียวยา ฟื้นฟู" เค้นงบกลาง งบประจำ พร้อมมาตรการกึ่งการคลัง พร้อมดัน 7 แบงก์รัฐ ช่วยลูกค้า นายกฯ ยืนยัน อยู่พื้นที่จนคลี่คลาย
- ก.อุตสาหกรรม จัดเตรียม 3 มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ด้าน ธ.ก.ส.เตรียมวงเงิน 20,000 ล้าน ช่วยเกษตรกรน้ำท่วม ออกสินเชื่อฉุกเฉิน ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน
- "อรรถพล" เดินหน้าหนุนการเติบโต ดาต้าเซนเตอร์ หลังยอดลงทุนพุ่งเกิน 6 แสนล้าน เร่งแก้คอขวดไฟฟ้าอีอีซี พร้อมอนุมัติขยายสายส่งกว่า 3 พันล้าน มองเป็นโอกาสทองให้ไทยกำหนด เงื่อนไขลงทุน เปิด Direct PPA ธ.ค.นี้ ด้าน "ราช กรุ๊ป" ชูสมาร์ตกริด เสริมศักยภาพสร้างความมั่นคงพลังงาน "หัวเว่ย-ไมโครซอฟท์" ระบุคลาวด์-เอไอ คืออาวุธขับเคลื่อนไทยยุคใหม่
- นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานกำลังเร่งจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ หรือพีดีพีฉบับใหม่ ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค. ปี 69 โดยจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น รวมถึง ปรับเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก หรือเอส เอ็มอาร์ ให้เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมตั้งเป้าไว้ 600 เมกะวัตต์ ในปี 80 แต่จะเพิ่มขึ้นเท่าใดต้องศึกษาข้อมูลที่เหมาะสม
- บอร์ด รฟท.ไฟเขียวปรับแบบสัญญา 2 รถไฟทางคู่สายอีสาน ทำทางรถไฟยกระดับข้ามสะพานเลี่ยงเมืองโคราช วงเงิน 1.7 หมื่นล้าน ลุยชง ครม. คาดเริ่มสร้างปลายปี 69
- BCP (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 36.00 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 4/68 กลับมาฟื้นแกร่ง โดยเฉพาะธุรกิจการกลั่นได้อานิสงส์ค่าการกลั่นเร่งตัวขึ้นมากและเริ่มใช้งานระบบรับน้ำมันดิบจากเรือ VLCC ช่วยลดค่าขนส่ง 0.4 USD/bbl ตั้งแต่กลางเดือน ต.ค.ประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 1.1 พันล้านบาท ถือเป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อราคาหุ้น ท่ามกลาง Valuation ปัจจุบันที่เทรดเพียง PBV 0.6 เท่า
- CPN (คิงส์ฟอร์ด) ซื้อ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 67.98 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 3/68 ที่ 5,424 ล้านบาท +31% YoY +26% QoQ มีกำไรพิเศษจากการโอนพื้นที่ (CPNREIT) ขณะที่ธุรกิจให้เช่าศูนย์การค้ายังประคองตัวดี และธุรกิจโรงแรม /อสังหาฟื้น QoQ ส่วนการดำเนินงานปกติไตรมาส 4/68 คาดปัจจัยหนุนจาก 1. โมเมนตัมธุรกิจให้เช่าฯ ตามกลยุทธ์ Retail-Led Mixed-Use Development/เปิด Central กระบี่ 2.มาตรการภาครัฐฯ เช่น เที่ยวดีมีคืน/ปัจจัยตามฤดูกาล และ 3.ยอดโอนคอนโดกลับมา/เปิดโครงการแนวราบใหม่ๆ คาดปี 68 และ 69 กำไรสุทธิ 17,458 ลบ. (+4% YoY) และ 18,735 ลบ. (+7% YoY)
- MAGURO (ฟินันเซียไซรัส)แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 31.60 บาท SSSG 4QTD ติดลบน้อยลงที่ -1% y-y และคาดพลิกเป็นบวกใน ธ.ค.จากโปรโมชั่นและการเปิดสาขาใหม่รวม 15 สาขาปี 68 หนุนรายได้ไตรมาส 4/68 โตไม่ต่ำกว่า 40% y-y ขณะที่ Gross Margin คาดดีขึ้น เราคาดกำไรไตรมาส 4/68 ทำ New High ต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ไม่น้อยกว่า 15 สาขาในปี 69 และตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% โดยเราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 68-69 โต +41% และ +27% ตามลำดับ