นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บมจ.แสนสิริ [SIRI] กล่าวว่า แนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/68 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องจากมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่เข้ามามากถึง 5 โครงการ และโครงการแนวราบใน จ.ภูเก็ต รวมทั้งมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเข้าโครงการร่วมทุน (JV) ทำให้ภาพรวมของผลงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้คาดว่าจะออกมาโดดเด่น
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมของเศรษฐกิจที่มีความผันผวน จากปัจจัยความไม่แน่นอนของการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐกับประเทศต่างๆ ทำให้ปัจจัยในประเทศที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจชะลอลง กำลังซื้อยังไม่ฟี้น และหนี้ครัวเรือนสูง รวมทั้งปัจจัยแผ่นดินไหวในช่วงต้นปี ทำให้การขายและการโอนคอนโดหยุดชะงักไปชั่วคราว นอกจากนั้นสถานการณ์ยน้ำท่วมในช่วงปลายปีมีผลกระทบบ้าง และขณะนี้เงินบาทแข็งค่ามาก ก็มีผลกระทบต่อลูกค้าต่างชาติบ้าง ทำให้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวตามไปด้วย ยอดขายและยอดโอนของบริษัทอาจจะพลาดจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ไปบ้าง แต่การเปิดโครงการในปีนี้ก็ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ 29 โครงการ มูลค่า 5.2 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่สามารถเปิดได้ตามแผนในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนในปี 69 ยังรอติดตามปัจจัยต่างๆ ทั้งปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในประเทศ โดยเฉพาะภาพรวมของเศรษฐกิจไทยหลังจากการเลือกตั้งในต้นเดือน ก.พ. 69 หากสัญญาณต่างๆทางเศรษฐกิจโดยรวมเป็นบวก และหนุนกำลังซี้อให้ฟื้นตัวขึ้นกลับมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีการกลับมาได้บ้างตามสัญญาณบวก ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการทำแผนงานปี 69 โดยในส่วนของการโอนก็ยังมีการทยอยโอนโครงการตามแผน ซึ่งขณะนี้บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ราว 2.3 หมื่นล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง
สำหรับตลาดหัวเมืองใหญ๋ที่บริษัทยังเดินหน้าต่อเนื่อง คือ ภูเก็ต ในปี 69 เตรียมเปิดอีก 2 โครงการใหม่ ทำเลหาดสุรินทร์ และเชิงทะเล-บางเทา โดยบริษัทยังมองเห็นศักยภาพของภูเก็ตในระยะยาวทั้งด้านความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการอยู่อาศัยจริง การลงทุน และการเติบโตของภูเก็ต อีกทั้งลูกค้าในภูเก็ตให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจ เป็นส่วนหนึ่งของภูเก็ตมาระยะเวลานานเช่นเดียวกัน