นายพิษณุ วิชิตชลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแชร์)เพิ่มเป็น 2.5-2.7% จากปีนี้ 1.8-1.9% โดยจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เก็ตติ้ง)อีก 30-40 คนเป็น 250 คน จากปัจจุบันมีกว่า 200 คน
นอกจากนั้น จะมีการเปิดสาขาเพิ่มขึ้น โดยเน้นพื้นที่ในต่างจังหวัด เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีเพียงสาขาเดียวที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นให้เป็น 5-6 สาขา ทั้งนี้จะมีการปรับรูปแบบการให้บริการลักษณะออนไลน์ขยับขึ้นเป็นสาขาเต็มรูปแบบ เน้นพื้นที่แถบภาคอีสาน
บล.โกลเบล็ก ยังตั้งเป้าหมายที่จะมีสัดส่วนบัญชีลูกค้าที่เคลื่อนไหวสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นเป็น 60-70% จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 40% จากบัญชีลูกค้าที่มีอยู่ 10,000 บัญชี โดยคาดว่าปริมาณซื้อขายเฉลี่ยปีหน้าจะอยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท/วัน
นายพิษณุ เชื่อว่า เมื่อเปิดเสรีปีหน้าแล้วคงมีนักลงทุนหลายกลุ่มมองไทยน่าสนใจมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มมาเลย์และสิงคโปร์ที่มองว่าประเทศไทยน่าลงทุน พร้อมกันนั้น บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรในมาเลย์และสิงคโปร์เพื่อร่วมมือในการรองรับ(ASEAN Linkage)คาดได้สรุปราวไตรมาส 3-4/55 ซึ่งในระยะคงทำหน้าที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่บริษัทส่งคำสั่งซื้อขายให้ก่อนอาจจะยังไม่มีการเข้ามาถือหุ้น ส่วนหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรขึ้นกับบริษัทแม่
ทั้งนี้ เป้าหมายของโกลเบล็กต้องการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจร กระจายการให้บริการตอบสนองได้อย่างทั่วถึง ไม่ขึ้นอยู่กับตลาดใดตลาดหนึ่ง และจะเป็นเจ้าแรกที่ทำแตกต่างจากคนอื่น โดยปี 55 เน้นการเจิบโตจากตราสารอนุพันธ์ ซึ่งมีสินค้าหลักเน้นทองคำ ส่วนแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ยังไม่รีบร้อน เพราะขึ้นอยู่กับ timing เพราะขณะนี้บริษัทแม่ก็อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว
"เปิดเสรีโบรกฯ มีปีหน้า บริษัทเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว เราเป็นโบรกฯที่ได้เปรียบสามารถคอนโทรล cost ได้ต่ำ ต่อให้ตลาดผันผวนแค่ไหนเราก็อยู่ได้ ถ้าเปิดเสรีจะเน้นประคอง cost ให้ดี การแข่งขันไม่กังวล"นายพิษณุ กล่าว