แหล่งข่าว บมจ.เอสวีไอ(SVI)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ยอดขายในปี 54 ยังเติบโตได้ในระดับ 8-10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 258 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะพลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้ 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้บริษัทยังไม่แน่ใจว่าไตรมาส 4/54 จะมีผลขาดทุนหรือไม่ เพราะยอดขายลดลงจากสาเหตุที่ไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ ดังนั้น จึงขึ้นกับการรับรู้การชดเชยความเสียหายจากประกันภัยได้ทันภายในปีนี้หรือไม่
ส่วนปี 55 เบื้องต้นได้วางเป้ายอดขายเติบโต 10% แต่คงต้องมีการทบทวนอีกครั้งโดยจะประเมินจะผลกระทบจากน้ำท่วม และการชดเชยค่าสินไหมทดแทนจากการทำประกันภัย และตั้งงบลงทุนจำนวน 300 ล้านบาทในการจัดซื้อเครื่องจักรใหม่และการปรับปรุงพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำท่วม
สำหรับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี ขณะนี้อยู่ในช่วงของการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพิ่มอีก 2 สายการผลิต คาดว่าจะกลับมาผลิตได้ในวันที่ 15 ม.ค.55 ขณะเดียวกันบริษัทได้ยกเลิกแผนการขายโรงงานเดิมที่แจ้งวัฒนะ เพื่อกลับมาเปิดสายการผลิตอีกครั้งจากปัจจุบันที่ผลิตสินค้าทดแทนโรงงานในนิคมฯบางกระดีที่ถูกน้ำท่วมเป็นการชั่วคราว
"ที่บางกระดีวางแผนว่าจะเปิดการผลิตได้ในวันที่ 15 ม.ค.55 แต่ยังไม่เต็มที่ โดยตอนนี้เริ่มติดตั้งเครื่องจักรใหม่ 2 ไลน์ และของใหม่ที่จะเพิ่มอีก 2 ไลน์ และของเดิม 3 ไลน์ และที่แจ้งวัฒนะมีอีก 3 ไลน์ คาดว่าการผลิตรวมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วงกลางเดือนเม.ย.55" แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว ยอมรับว่า ช่วงน้ำท่วมทำให้คำสั่งซื้อของลูกค้าลดลง เนื่องจากมีสินค้าบางส่วนไม่สามารถผลิตส่งมอบให้ลูกค้าได้ ทำให้ลูกค้าโยกย้ายไปสั่งสินค้าจากแหล่งอื่น แต่เมื่อบริษัทกลับมาผลิตสินค้าตามปกติได้แล้วก็เชื่อว่าคำสั่งซื้อจะกลับมา เนื่องจากบริษัทมีความได้เปรียบด้านการผลิตเมื่อเทียบกับแหล่งอื่น ทั้งเรื่องค่าแรง วัตถุดิบและการขนส่ง
ขณะที่แผนการป้องกันน้ำท่วมในระยะต่อไป บริษัทได้วางแผนโยกย้ายการติดตั้งเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีสูงไปอยู่บนชั้น 2 ของโรงงาน ขณะที่พื้นที่ชั้น 1 จะติดตั้งเครื่องจักรทั่วไป ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมบางกระดีเองก็มีแผนจะสร้างคันดินสูง 7 เมตรล้อมรอบนิคมฯ แต่ยังไม่มีกำหนดแผนการก่อสร้างแล้วเสร็จรวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนดังกล่าว