โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เชียร์"ซื้อ"บมจ.การบินไทย(THAI)เป็นหุ้น Turnaround ในปีนี้ หลังจากผ่านจุดเลวร้ายไปแล้วในปี 54 และราคาหุ้นในปัจจุบันยังถูกอยู่
ทั้งนี้ คาดว่าปี 55 ผลประกอบการของ THAI จะพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิในช่วง 2,390-5,105 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่คาดว่าจะขาดทุนสุทธิในช่วง 4,440-8,739 ล้านบาท โดย THAI จะมีการปรับตัวดีขึ้นทุกอย่างทั้งมีเครื่องบินใหม่เข้ามาเพิ่ม, อัตราส่วนผู้โดยสาร(Cabin Factor)ที่ดีขึ้น ในส่วนของราคาน้ำมันก็ได้มีการทำประกันความเสี่ยง(เฮดจ์จิ้ง)เพิ่มขึ้นในปีนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ข่าวดีอีกจากที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้น THAI ให้กับกองทุนวายุภักษ์ แม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นระยะเวลาที่ชัดเจนในการขาย แต่ด้วยประเด็นนี้หากเกิดขึ้นจริงจะทำให้การบริหารของ THAI คล่องตัวมากขึ้น
อย่างไรก็ดี THAI ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามอยู่ที่สถานการณ์ปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปจะลากเศรษฐกิจโลกให้ซบเซาหรือเปล่า เพราะจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวด้วย นอกจากนี้ยังต้องเกาะติดประเด็นการก่อการร้ายด้วย เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติมีบางส่วนได้ยกเลิกการเดินทางมายังงประเทศทไทยไปบ้างแล้ว
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 31.00 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 26.50 บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 25.60 บล.เกียรตินาคิน ถือ 21.00 บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ถือ 20.50นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัย บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า เหตุที่แนะ"ซื้อ"หุ้น THAI เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันยังถูก โดยเทรดต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(Book value) อีกทั้งปัจจัยลบหายไปหมดแล้ว ปีนี้คาดว่าผลการดำเนินงานจะพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิที่ 5,105 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.34 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่คาดว่าจะมีผลขาดทุนสุทธิ 8,739 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 4 บาท
THAI ในปีนี้จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นทุกอย่าง ทั้งการมีเครื่องบินใหม่เข้ามา, อัตราส่วนผู้โดยสาร(Cabin Factor)ที่ดีขึ้น ในส่วนของราคาน้ำมันก็ได้มีการทำประกันความเสี่ยง(เฮดจ์จิ้ง)ไปแล้ว
ด้านนายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)กล่าวว่า ปีนี้จัดได้ว่า THAI เป็นน่าจะเป็นหุ้น Turnaround ได้ เนื่องจากมองว่าได้ผ่านจุดเลวร้ายไปแล้วในปี 54 และยังได้รับข่าวดีอีกจากที่กระทรวงการคลังได้ขายหุ้น THAI ให้กับวายุภักษ์ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่เห็นระยะเวลาที่ชัดเจนในการขาย แต่ด้วยประเด็นนี้หากเกิดขึ้นจริงจะทำให้การบริหารของ THAI คล่องตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ ผลประกอบการของ THAI ในปีนี้น่าจะดีขึ้นจากปีที่แล้วที่เรียกได้ว่าแย่มาก ไตรมาส 2/54 ได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งการแพร่กระจายรังสีนิวเคลียร์ ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลงมากทั้งจากคนญี่ปุ่นและคนไทย โดยตลาดญี่ปุ่นถือเป็นตลาดที่ให้มาร์จินที่ดีแก่ THAI
พอมาถึงไตรมาส 4/54 THAI ก็เจอภาวะน้ำท่วมอีก ซึ่งส่งผลกระทบค่อนข้างแรง ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลงมาก แต่สิ่งเหล่านี้หวังว่าคงจะไม่เกิดขึ้นอีกในปีนี้ และทาง THAI ยังได้มีการทำเฮดจ์จิ้งน้ำมันเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วด้วย
ดังนั้น จึงคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 55 ของ THAI จะอยู่ที่ 3,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 5,476 ล้านบาท(ไม่รวมเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ(FX))
อย่างไรก็ดี THAI ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามอยู่ที่สถานการณ์ในยุโรปจะลากเศรษฐกิจโลกให้ซบเซาหรือเปล่า เพราะจะมีผลต่อการท่องเที่ยวด้วย นอกจากนี้ยังต้องเกาะติดเรื่องของการก่อการร้ายด้วย เพราะเท่าที่ดูตอนนี้ก็มีบางส่วนที่ได้มีการยกเลิกการเที่ยวเมืองไทยไปบ้างแล้ว
ส่วนนายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน ให้เหตุผลที่แนะนำ"ถือ"หุ้น THAI ว่า ธุรกิจของการบินไทยน่าจะรับรู้ข่าวร้ายไปหมดแล้ว เรียกได้ว่าได้ผ่านจุด bottom ไปแล้ว และปีนี้น่าจะมีการฟื้นตัวดีขึ้นสำหรับอัตราส่วนผู้โดยสาร(Cabin Factor) แต่ทั้งนี้การฟื้นตัวของ THAI อาจจะยังอยู่ในกรอบที่จำกัด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ไม่ดีนักจะกดดันในด้านดีมานต์ และต้นทุนน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับสูงอยู่
อย่างไรก็ดี ในปี 55 THAI คงจะสามารถทำผลการดำเนินงานพลิกกลับมาเป็นผลกำไรได้ โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 2,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่คาดว่าจะมีผลขาดทุนสุทธิ 4,440 ล้านบาท
ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า THAI มีข่าวล่าสุด อาจมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยขายหุ้น THAI ราว 1-2% ให้กองทุนวายุภักษ์ หากทำได้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทโดยตรง
ด้านราคาหุ้นยังถูกซื้อขายเพียง PBV 0.68 เท่า ผลประกอบการน่าจะผ่านจุดเลวร้ายสุดไปแล้วในปี 54 จากผลกระทบราคาน้ำมันแพง, สึนามิญี่ปุ่น และน้ำท่วมใหญ่ในประเทศ แต่ปีนี้ผลประกอบการจะพลิกฟื้นแกร่ง รับฤดูการท่องเที่ยวใน Q1 พร้อมประเมินมูลค่าเหมาะสม 23.12 บาท(consensus)