TUCC คาดเจรจาปรับโครงสร้างหนี้เสร็จภายใน Q2/55,มีผู้สนใจร่วมทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 1, 2012 14:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวสุทธิรัตน์ เสวี ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บมจ.ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ (TUCC) เปิดเผยว่า ปี 53-54 บริษัทได้รับผลกระทบจากการที่ถูกยกเลิกวงเงิน L/C , DL/C บริษัทจึงประสบปัญหาการสั่งซื้อวัตถุดิบ ประกอบกับต้องจ่ายชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงิน จึงทำให้ยอดขายของบริษัทลดลงและไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนด และทำให้รายรับไม่พอกับรายจ่ายที่เกิดขึ้น เป็นผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทขาดทุนต่อเนื่อง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2554 บริษัททำจดหมายของดการจ่ายเงินกู้ทุกประเภทพร้อมดอกเบี้ยกับทางธนาคารเป็นระยะเวลา 1 ปี และได้ขอเพิ่มระยะเวลาต่อไปอีก 6 เดือน

จากการที่บริษัทมีผลดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง บริษัทได้เข้าเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง และขอเงินทุนชั่วคราวมาซื้อวัตถุดิบเพื่อทำการผลิตสินค้าและขายให้กับลูกค้าตามปกติมีการเข้าเจรจากับผู้ขายวัตถุดิบ รวมทั้งบริษัทมีการควบคุม ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งส่วนกลางบริหารและค่าผลิต โดยเข้าควบคุมดูแลการใช้ทรัพยากรแต่ละจุดให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

ส่วนสถาบันการเงินอื่น บริษัทอื่น และเจ้าหนี้อื่น นั้นอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในระหว่างไตรมาส 2 ปี 2555 ระหว่างการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้นี้บริษัทได้มองหาผู้ร่วมทุนทั้งในประเทศและนอกประเทศซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจบางรายติดต่อขอเงื่อนไขกับทางบริษัทอยู่

ทั้งนี้ บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานติดต่อกันมาหลายปีและบริษัทได้ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 3 แห่ง บริษัทอื่น 2 แห่ง และเจ้าหนี้อื่น 5 ราย โดยบริษัททำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินสองแห่งแล้ว แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ซึ่งอยู่ในระหว่างการแก้ไขสัญญาใหม่ และบริษัทยังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินอีก 1 แห่ง และผู้ให้กู้และเจ้าหนี้อื่น

บริษัทชี้แจง สาเหตุของปัญหาที่ทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องในระยะที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้บริษัทขาดสภาพ คล่องและผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากในปี 2551 ประมาณเดือน กันยายนปี 2551 เศรษฐกิจโลกเจอวิกฤตซับไพร์ม ทำให้มีผลกระทบในราคาของวัตถุดิบลดลง ราคาเฉลี่ยประมาณ 140 บาท/กก. ลดลงเหลือ 85 บาท/กก. ทำให้บริษัทฯ ขาดทุน ในปี 2551 เป็นจำนวนเงิน 70 ล้านบาท

ต่อมาในปี 2552 ในช่วงไตรมาส 1 คาบเกี่ยวปลายไตรมาส 2 ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดี ยังมีผลขาดทุน เข้าเดือน มิถุนายน จนไตรมาส 3 บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้ ช่วงปลายปี แต่ในภาพรวมปี 2552นั้น ความผันผวนของราคาวัตถุดิบมีค่อนข้างมาก จึงเป็นผลให้การดำเนินงานโดยรวมทำให้ปี 2552 มีผลขาดทุน

ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2552 บริษัทจ่ายชำระหนี้ธนาคาร 3 แห่ง จำนวน 198 ล้านบาท และถูกขอยกเลิกวงเงิน L/C, DL/C สำหรับซื้อวัตถุดิบ จำนวน 280 ล้านบาท ซึ่งกระทบวงเงินในการซื้อวัตถุดิบ ของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทได้รับรายงานของผู้สอบบัญชีในกรณีที่ผู้สอบบัญชีเสนอรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 แบบไม่แสดงความเห็นและมีข้อสังเกตของบริษัท

บริษัทชี้แจง ฝ่ายบริหารของบริษัทเชื่อว่าการตั้งสำรองจำนวนดังกล่าวข้างต้นเพียงพอและเหมาะสมแล้ว เนื่องจากบริษัทได้มีการติดตามทวงถามลูกหนี้อย่างใกล้ชิดและมีทำสัญญาตกลงผ่อนผันการจ่ายชำระหนี้คืนให้แก่บริษัทแล้ว

อีกทั้ง ความไม่เพียงพอของระบบการควบคุมภายในของการตรวจนับและเอกสารในการกระทบยอดสินค้าคงเหลือของบริษัทและบริษัทย่อย ผู้สอบบัญชีจึงแสดงความเห็นว่าไม่สามารถแสดงความเห็นต่อความถูกต้องและความเหมาะสมของรายการสินค้าคงเหลือ ที่แสดงอยู่ในงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 ได้

เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อช่วงปลายปี 2554 บริษัทได้นำสินค้าบางรายการไปฝากขายกับตัวแทนจำหน่ายบางราย จึงเป็นผลทำให้ ณ วันที่ทำการตรวจนับสินค้าคงเหลือในบัญชีดังกล่าวมีสินค้าให้ตรวจนับไม่ครบหากแต่บริษัทได้แจ้งและให้เอกสารหลักฐานดังกล่าวแก่ผู้สอบบัญชีแล้ว ซึ่งผู้สอบบัญชียังเห็นว่าไม่เพียงพอและในระหว่างปี บริษัทซื้อวัตถุดิบโดยจ่ายเป็นเช็คเงินสดจำนวนมากและมีเอกสารประกอบไม่เหมาะสม ผู้สอบบัญชีระบุว่าแม้จะใช้วิธีการตรวจสอบยอดคงเหลือแล้วก็ยังไม่สามารถได้ว่ารายการซื้อทั้งหมดมีการบันทึกบัญชีอย่างเหมาะสมแล้วหรือไม่

บริษัทชี้แจงรายการซื้อสินค้าเป็นเช็คเงินสดดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในระหว่างไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2554 ซึ่งผู้สอบบัญชีเดิมได้ระบุไว้ในรายงานของผู้สอบบัญชีแล้ว และระบุถึงการควบคุมภายในที่ไม่เพียงพอ สาเหตุและความจำเป็นที่บริษัทจ่ายชำระค่าวัตถุดิบเป็นเช็คเงินสด เนื่องจากโดยปกติการซื้อวัตถุดิบในวงการค้า มีการซื้อขายเป็นเงินสด เนื่องจากทางผู้ขายต้องการเช็คเงินสดเพื่อไปจ่ายชำระค่าสินค้าให้แก่เจ้าหนี้บริษัทที่สั่งซื้อสินค้ามาให้ โดยวิธีการจ่ายชำระค่าวัตถุดิบกับผู้ขายแต่ละรายแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของผู้ขาย ปัจจุบันบริษัทหยุดการสั่งจ่ายเช็คเป็นเงินสดแล้วตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2554

ส่วนข้อสังเกตุเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทในการดำเนินงานต่อเนื่องในอนาคต บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานติดต่อกันมาหลายปี โดยมีขาดทุนสะสมในงบการเงินรวมจำนวน 430.73 ล้านบาท และงบการเงินเฉพาะบริษัท จำนวน 460.08 ล้านบาท รวมทั้งหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนรวม 857.18 ล้านบาทในงบการเงินรวม และ 699.99 ล้านบาทในงบการเงินเฉพาะบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ