ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน รวมถึงความหวั่นเกรงว่า การสว็อปพันธบัตรของกรีซอาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เปิดลดลง 24.97 จุด หรือ 0.19% แตะที่ 12,952.6 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.38 จุด หรือ 0.25% แตะที่ 1,366.25 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 6.46 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 2,969.73 จุด
วันนี้ นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ได้ประกาศปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 8% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ได้คงเป้าหมายเอาไว้ที่ 8% มาเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า อาจมีนักลงทุนภาคเอกชนเพียงไม่กี่รายที่เข้าร่วมในแผนสว็อปพันธบัตรของกรีซ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็อาจทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้และจะยิ่งทำให้วิกฤตหนี้ในยุโรปเลวร้ายลงไปอีก
ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซประกาศแผนสว็อปพันธบัตรอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 24 ก.พ. ซึ่งภายใต้แผนดังกล่าว นักลงทุนภาคเอกชนที่ถือครองพันธบัตรของกรีซต้องยินยอมรับการขาดทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือกรีซ ด้วยการยอมรับเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% ในขณะที่การขาดทุนที่แท้จริงอาจสูงถึงราว 75%
อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวส่งผลให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลกรีซ ลงมาอยู่ที่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน (selective default)" จากระดับ CC เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ก.พ. ตามด้วยมูดีส์ที่ตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินในประเทศและต่างประเทศของกรีซ ลงจากระดับ Ca สู่ระดับ C ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในระบบการจัดอันดับของมูดีส์