CWTเล็งขายหุ้นกู้1พันลบ.ทยอยออกครั้งละ200ลบ.อายุ1-2ปี หวังช่วยลดดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday March 18, 2012 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทเตรียมเสนอผู้ถือหุ้นให้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี มีจุดประสงค์เพื่อทำการรีไฟแนนซ์หนี้เดิมให้มีต้นทุนการเงินที่ต่ำลง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของสำนักงานกลต.ที่ต้องการให้บริษัทขนาดกลางเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านตลาดทุนเช่นหุ้นกู้มากขึ้น

ทั้งนี้ กลต.ต้องการให้บริษัทขนาดกลางยื่นขออันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทเรทติ้งเพื่อนำไปใช้ปรับโครงสร้างทางการเงินกับธนาคารได้เพื่อให้มีต้นทุนการเงินที่ต่ำลงให้สามารถแข่งขันได้ ทั้งนี้หากได้รับการอนุมัติ บริษัทฯมีแผนที่จะทยอยออกขายหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาท ออกเป็นล๊อตเช่นครั้งละ 200 ล้านบาท จำนวน 5 ครั้ง ไม่ได้ออกในครั้งเดียวทั้งหมด และคาดว่าจะออกเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 1-2 ปี

"ปัจจุบันบริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนระยะสั้นประมาณ 400 - 500 ล้านบาท ซึ่งเราสามารถนำเรทติ้งที่ได้ไปหารือเพื่อให้ทางธนาคารพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อีกทั้งการออกหุ้นกู้ยังสามารถล๊อคต้นทุนการเงินไม่ให้เปลี่ยนไปตามตลาดเงินได้ด้วย ทำให้คาดว่าปีนี้ต้นทุนการเงินของบริษัทฯ น่าจะอยู่ระดับต่ำกว่าระดับดอกเบี้ย MOR ของธนาคารใหญ่"นายวีระพล กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทฯไม่มีแผนที่จะลงทุนครั้งใหญ่ มีเพียงแค่การปรับปรุงเครื่องจักรใหม่และเพิ่มไลน์การผลิตเบาะผ้าซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ คาดว่าจะใช้เงินเพียง100 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทฯยังมีการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติในการพัฒนาสินค้าใหม่อยู่หนึ่งราย

ส่วนแนวโน้มธุรกิจในส่วนของเบาะหนังซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเริ่มมีสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ฮอนด้าที่มีการส่งออกไปอินโดนีเซีย อาทิ Honda CR-V และ Honda Freed สำหรับธุรกิจเบาะผ้าคาดว่าปีแรกจะทำรายได้ 100 ล้านบาท มีการผลิต 10,000 คันในปีแรกและปีต่อไปจะเพิ่มเป็น 20,000 คัน และเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) และความต้องการ (วอลลุ่ม) สูงกว่าเบาะหนัง

เป้าหมายในปีนี้ยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้คือรายได้แตะ 1,200 ล้านบาท และอีกสามปีจากนี้จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 20-30%ทุกปี จนแตะระดับ 1,600 ล้านบาท ตามการเติบโตของธุรกิจยานยนต์ในไทย

"ผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้เพราะเราไม่ได้ลงทุนใหญ่แถมต้นทุนการเงินจะลดลงด้วย บริษัทฯ มีแผนการเติบโตที่ชัดเจนและยังหาโอกาสที่จะขยายสินค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย" นายวีระพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ