บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) เตรียมปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าในเครือเฉลี่ย 10% ในปีนี้ และบริษัทยังเตรียมขายอาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ให้เป็นสินทรัพย์ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น คาดมูลค่าราว 4-5 พันล้านบาท ทำให้มั่นใจว่ารายได้ทั้งปี 55 จะเติบโตขั้นต่ำที่ 25% จากปีก่อน
บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3-3.5 พันล้านบาทภายในปีนี้ อายุหุ้นกู้ราว 3-5 ปี นอกจากนั้นยังเตรียมขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียนภายในปี 58
นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองใหม่ประเภท Commercial property พร้อมทั้งจะนำอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิสเซส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มูลค่า 4-5 พันล้านบาทขายเข้ากองทุนดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 3/55 นี้
สำหรับภาพรวมผลประกอบการในปี 55 บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตอย่างน้อย 25% เนื่องจากปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวเต็มปี ขณะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ก็กลับมาเปิดครบทุกโซนแล้ว โดยห้างสรพพสินค้า ZEN ได้กลับมาเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังมีการรับรู้รายได้จากห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ที่เปิดให้บริการในปี 54 ที่ผ่านมา ทั้งเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย เซ็นทรัลพลาซ่าพิษณุโลก และเซ็นทรัลพลาซ่าแกรนด์พระราม 9 และจะมีการเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่อีก 3 แห่งในปีนี้ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี เซ็นทรัลพลาซ่าสุราษฎร์ธานี และเซ็นทรัลพลาซ่าลำปาง ประกอบกับในปีนี้บริษัทมีแผนปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ย 10%
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/55 คาดว่ารายได้จะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาสู่ภาวะปกติ ประกอบกับมีการรับรู้รายได้จากศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 54 ที่ผ่านมา
“เรามีแผนเปิดศูนย์ใหม่ 2-3 ศูนย์ต่อปี หรือมีพื้นที่เพิ่มขึ้น 1 แสนตารางเมตรต่อปี โดยคาดว่าภายในปี 58 จะมีพื้นที่เช่าเพอ่มขึ้นจากปัจจุบัน 40% ซึ่งปีนี้เราจะเปิดศูนย์ใหม่ 3 ศูนย์ งบลงทุนรวม 1.1 หมื่นล้านบาท ปี 56 ก็เช่นเดียวกัน"นายนริศ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเปิดศูนย์การค้าในอาเซียนภายในปี 58 ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรในท้องถิ่น โดยปัจจุบันศึกษาทั้งการเข้าไปลงทุนเองตั้งแต่การซื้อที่ดิน และการเข้าไปซื้อกิจการศูนย์การค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งบริษัทอยากได้อย่างหลังมากกว่า และในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้วงเงิน 3-3.5 พันล้านบาท อายุ 3-5 ปี
นายนริศ กล่าวถึง ความคืบหน้าในการยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อ บมจ.เทเวศร์ประกันภัย จำนวนเงิน 3.8 พันล้านบาท เนื่องจากไม่จ่ายค่าชดเชยค่าประกันภัยแบบรับประกันภัยความเสียหายทุกชนิด(All Risks )กรณีศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ถูกไฟไหม้จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 ว่าขณะนี้ทางศาลแพ่งเตรียมเรียกให้บมจ.เทเวศร์ประกันภัย ยื่นขอต่อสู้คดีภายในสิ้นเดือนนี้
“ถ้าเราชนะคดีเราก็จะได้ดอกเบี้ย 7.5% นับตั้งแต่เริ่มต้นเกิดความเสียหายตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. แต่ถ้าเราไม่ชนะเราก็ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะถ้าเราแพ้เราก็ไปเรียกกับอีกบริษัทได้ คือไทยเศรษฐกิจประกันภัย ซึ่งเราทำประกันแบบก่อการร้ายกับเขา ซึ่งทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่าศาลจะตัดสินว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในการคุ้มครองของกรมธรรม์ประเภทไหน ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็ต้องได้เงินชดเชย"นายนริศ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าเรื่องที่ดินสวนลุม ซึ่งบริษัทชนะมูลจำนวน 40 ไร่ จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขณะนี้บริษัทยังไม่สามารถพัฒนาโครงการบนที่ดินดังกล่าวได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับมอบที่ดิน ทั้งนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการห้างสรรพสินค้า โรงแรม และออฟฟิศให้เช่า บนที่ดินดังกล่าว