ก.ล.ต.เล็งปรับเกณฑ์เสนอขายตราสารหนี้ไม่จัดเรทติ้ง-กองทุนรวม high yield

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 4, 2012 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการเสนอขายตราสารหนี้ที่ไม่จัดอันดับความน่าเชื่อถือและกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงแก่ผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการและตลาดทุนไทยให้สามารถรองรับการแข่งขันและการรวมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนที่มีความรู้ในการลงทุน มีฐานะทางการเงิน และสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ สามารถเลือกลงทุนในสินค้าที่มีความซับซ้อน และความเสี่ยงที่สอดคล้องกับศักยภาพในการดูแลตนเอง โดยยังคงได้รับการคุ้มครองในระดับที่เหมาะสม

โดย ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะให้ผู้ลงทุนดังกล่าวสามารถลงทุนในตราสารหนี้ที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bonds) และกองทุนรวมที่สามารถลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง (กอง high yield) ได้ รวมทั้งจะพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขาย (sales conduct) เพื่อรองรับการขายสินค้าตามประเภทผู้ลงทุนให้เหมาะสมและรัดกุมยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะกำหนดให้ unrated bonds และกอง high yield เสนอขายได้เฉพาะ (1) ผู้ลงทุนสถาบัน เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกัน และกองทุนรวม เป็นต้น (2) ผู้ลงทุนรายใหญ่ (high net worth) และ (3) บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีเงินลงทุนขั้นต่ำในครั้งแรกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ลงทุนตาม (2) และ (3) ต้องมีประสบการณ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 ปี

กอง high yield จะไม่จำกัดอัตราส่วนการลงทุนใน unrated bonds หรือตราสารหนี้ที่อันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) แต่จะกำหนดอัตราส่วนการลงทุนในผู้ออกตราสารรายใดรายหนึ่ง (company limit) ไม่เกิน 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ซึ่งกองทุนจะต้องเปิดเผยนโยบายการลงทุนและคำเตือนความเสี่ยงไว้อย่างชัดเจน รวมทั้งต้องจัดสรรหน่วยลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนอย่างน้อย 35 ราย และต้องไม่จัดสรรหน่วยลงทุนให้แก่บุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันใดเกินกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

นอกจากนี้ ก.ล.ต. จะกำหนดให้ตัวกลางต้องมีกระบวนการปฏิบัติงานที่ทำให้มั่นใจได้ว่า ผู้ลงทุนแต่ละประเภทมีคุณสมบัติเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด รวมทั้งต้องมีการทำ suitability test ก่อนการลงทุน ยกเว้น (1) กรณีการขายสินค้าที่ไม่มีความซับซ้อนต่อผู้ลงทุนสถาบัน ไม่ต้องทำ suitability และ (2) กรณีการขายสินค้าที่มีความซับซ้อนให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน หรือขายสินค้า (ไม่ว่าจะซับซ้อนหรือไม่) ให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งผู้ลงทุนได้ใช้สิทธิในการปฏิเสธการทำ suitability test และตัวกลางต้องมั่นใจได้ว่า ผู้ลงทุนดังกล่าวมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีในสินค้าที่จะลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ