ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทสมิธ แอนด์ เนฟิว อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่ร่วงลงเกินคาด
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5766.55 จุด บวก 8.44 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนขยับขึ้นขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน โดยเฉพาะบริษัทสมิธ แอนด์ เนฟิว อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย. ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 53.5 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 56 จุดในเดือนมี.ค. เนื่องจากการจ้างงานที่ลดลงในภาคบริการ
หุ้นสมิธ แอนด์ เนฟิว พุ่งขึ้น 4% ขณะที่หุ้นบีจี กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ ร่วงลง 1.8% หุ้นอันโตฟากัสต้า ร่วงลง 4.4%
หุ้นเบอร์เบอรี่ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.4%
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษ หลังจากนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวกับว่า เศรษฐกิจของอังกฤษมีการฟื้นตัวที่อ่อนแอและเชื่องช้ากว่าที่คาด ขณะที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงเกินไป พร้อมเตือนว่าวิกฤติหนี้ของยุโรปยังไม่มีแนวโน้มสิ้นสุดลงและจะยังคงเป็นปัจจัยถ่วง
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษหดตัว 0.2% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 หลังจากที่หดตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2552