นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขาย 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน เอเอ็น (KPPTF3M AN) กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน เอแซท (KFI3MAZ) กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน อาร์(KFF6MR) และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เอจี (KFF1YAG) ในวันที่ 6-11 มิ.ย.55 เพื่อรองรับความต้องการลงทุนระยะสั้นของผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองว่าวิกฤติเศรษฐกิจยุโรปยังคงยืดเยื้อต่อไป โดยเฉพาะความเสี่ยงที่กรีซจะออกจากยูโรโซนมีมากขึ้น จากการที่มูดี้ส์ปรับลดเพดานอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ในกรีซลงวานนี้ อยู่ที่ระดับ CAA2 ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดที่บริษัทของกรีซจะสามารถออกตราสารหนี้ขายให้นักลงทุนได้ (B1) ประกอบกับมาตรการแก้ไขเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 มิ.ย.ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลกไปอีกระยะ รวมถึงส่งผลให้ธนาคารกลางยังคงชะลอการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปจนกว่าจะถึงช่วงปลายปีนี้
ดังนั้น การลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุ 3 เดือน จนถึง 1 ปี จึงยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสล็อกผลตอบแทนในภาวะที่ตลาดการลงทุนยังมีความผันผวนสูง
สำหรับกองทุนเปิด KPPTF3MAN เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ให้โอกาสรับผลตอบแทน 2.70%ต่อปี ในขณะที่กองทุนเปิด KFI3MAZ ให้โอกาสรับผลตอบแทน 2.90% ต่อปี โดยเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ตั๋วแลกเงินธนาคารทิสโก้ ตราสารหนี้ของธนาคาร Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล และเงินฝากของ PT Bank CIMB Niago Tbk, ประเทศอินโดนีเซีย
ด้านกองทุนเปิด KFF6MR ให้โอกาสรับผลตอบแทน 3.10% ต่อปี เน้นลงทุนในตราสารหนี้ของธนาคาร Banco Itau BBA S.A. Banco Bradesco และ Banco Votorantim ประเทศบราซิล และเงินฝาก PT Bank CIMB Niago Tbk, ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนกองทุนเปิด KFF1YAG ให้โอกาสรับผลตอบแทน 3.40% ต่อปี เน้นลงทุนใน ตราสารหนี้ของธนาคาร Banco Itau BBA S.A., Banco Bradesco และ Banco do Brasil ประเทศบราซิล เงินฝาก PT Bank CIMB Niaga Tbk, ประเทศอินโดนีเซีย และ เงินฝาก Union National Bank, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์