(เพิ่มเติม) รัฐประกาศเริ่มขั้นตอนประมูลงานบริหารจัดการน้ำคาดรู้ผลคัดเลือก 31ม.ค.56

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 24, 2012 17:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลประกาศผ่านเวทีชี้แจงกรอบแนวคิด(ทีโออาร์)งานบริหารจัดการน้ำเริ่มขั้นตอนการประกวดราคาตั โดยเปิดให้ยื่นคุณสมบัติของผู้สนใจเข้าร่วมประมูลตั้งแต่วันนี้ และคาดว่าจะรู้ผลการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ภายใต้ทีโออาร์ภายในวันที่ 31 ม.ค.56 ซึ่งจะพิจารณาเรื่องราคา เวลา เทคโนโลยี และประสบการณ์ เป็นหลัก

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) และประธานการประชุมชี้แจงโครงการการเสนอกรอบความคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ (Conceptual Plan) กล่าวว่า โครงการนี้จะให้คะแนนกับผู้เข้าร่วมประมูลที่จะพิจารณาจากความถูกต้องความครบถ้วนของ Conceptual Plan ความสอดคล้องกับแผนแม่บทความเป็นไปได้และความเหมาะสมทางเทคนิค ความเชื่อมโยงของระบบทั้งหมด, ความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ โดยเฉพาะกรอบเวลาที่สั้นที่สุดและงบประมาณค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องสำคัญมากในการพิจารณาคดเลือก รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ของโครงการ เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่ใช้เงินกู้ และประเทศไทยมีเวลาน้อยในการต่อสู้น้ำท่วม

"เรื่องเวลา ราคา เทคนิค ประสบการณ์ จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจ"นายปลอดประสพ กล่าว

ขั้นตอนการให้คะแนนจะทำ Short list 3 บริษัท หรือ 3 กลุ่มบริษัท และจะคัดเลือกเหลือ 1 บริษัท หรือจะเจรจาบริษัทที่ได้รับคะแนนสูงสุด โดยกรอบเวลาจะเริ่มหลังจากวันนี้ (24 ก.ค.55) ให้ยื่น company Profile กำหนดเวลายื่น 1 เดือนจนถึงวันที่ 24 ส.ค.55 และคณะกรรมการคัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 24 ก.ย.55 เมื่อบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติจะให้เวลา 3 เดือนในการยื่น Conception plan แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกให้เวลา 2 เดือนในการยื่นเอกสารฉบับร่าง กำหนดส่ง 23 พ.ย.55 และช่วงที่ 2 ใช้เวลา 1 เดือนในการสัมภาษณ์และส่งเอกสารฉบับสมบูรณ์ กำหนดภายใน 28 ธ.ค. 55 หลังจากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯใช้เวลา 1 เดือนในการพิจารณา และกำหนดประกาศผลการคัดเลือกผู้ชนะในวันที่ 31 ม.ค.56

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับการว่าจ้างทั้ง 6 เรื่อง อาจจะเป็น 6 บริษัท หรืออาจมีบริษัทใดหรือบริษัทหนึ่งได้รับการว่าจ้างมากกว่า 1 เรื่อง ขึ้นกับคะแนนที่ได้รับ ทั้งนี้จะใช้ระบบ Design and Build คณะกรรมการคัดเลือกจะว่าจ้าง 2 บริษัทเพื่อมาช่วยเหลือการบริหารโครงการ ส่วนบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกอาจจะมีถึง 4-5 บริษัท และมองว่าบริษัทในไทยอาจจะได้เปรียบอยู่บ้าง

สำหรับบริษัทที่ปรึกษานั้น นายปลอดประสพ ระบุว่า ยังไม่ได้ตั้งหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก แต่จะมีการกำหนดให้แต่ละโครงการที่จะมีการออกแบบและก่อสร้างจะมี 2 บริษัทที่ปรึกษาควบคุมตลอดการทำงาน ขณะที่ตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA)และสุขภาพประชาชน(HIA)นั้น ทางบริษัทที่จะเสนอโครงการควรจะต้องมีการสอบถามความเห็นจากประชาชนโดยตรง และยืนยันว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย

ทั้งนี้ โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัย มูลค่า 3 แสนล้านบาท มี 6 แผนงาน ได้แก่ การสร้างอ่างกักเก็บน้ำอย่างเหมาะสมและยั่งยืนในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ยม น่าน สะแกกรัง และป่าสัก งบประมาณดำเนินการ 5 หมื่นล้านบาท, การปรับปรุงพื้นที่เกษตรชลประทานในพื้นที่เหนือนครสวรรค์และเหนืออยุธยา งบประมาณ 6 หมื่นล้านบาท, การจัดทำผังการใช้ที่ดินการใช้ประโยชน์ที่ดินปิดล้อมพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจหลักของแต่ละจังหวัดและของประเทศที่ตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมถึง งบประมาณ 5 หมื่นล้านบาท, การจัดทางน้ำหลาก (Flood way) และทางผันน้ำ(Flood diversion) งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท, การปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลักและคันริมแม่น้ำ งบประมาณ 7 พันล้านบาท และการปรับปรุงคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์และเตือนภัย รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ(หลากและแล้ง)กรณีต่างๆ งบประมาณ 3 พันล้านบาท

ด้านนาย George G.van der Meulen , กรรมการ Compuplan Foundation ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบป้องกันน้ำท่วม ให้ความเห็นว่า การประชุมชี้แจงร่าง TOR ในวันนี้ พบว่าหลายบริษัทต่างพยายามจะหาช่องทางเข้าไปร่วมประมูลทั้งบริษัทจากต่างประเทศและในประเทศ แต่ดูเหมือน TOR จำกัดบริษัทเล็กทั้งในและต่างประเทศทำให้ไม่มีโอกาสเสนอแนวความคิดใหม่ ๆ ในการบริหารจัดการน้ำ แม้ว่าจะเปิดทางให้ร่วมมือในลักษณะ joint venture ได้ก็ตาม

นอกจากนั้น ในการประชุมวันนี้ไม่มีการพูดถึงการดำเนินการหรือบริหารงานหลังก่อสร้างเสร็จ เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องมีงบประมาณในการเข้าไปดูแล ที่สำคัญเรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นการบริหารแบบยั่งยืนและต้องใช้เวลายาวนาน ขณะที่อายุการทำงานของรัฐบาลมีวาระเพียง 4 ปี ขณะนี้โครงการต่าง ๆ ใช้งบประมาณจำนวนมากในการดำเนินการแทนที่จะทยอยทำและวางแผนระยะยาว ดังนั้น จึงน่าเป็นห่วง อีกทั้งไม่รู้ว่าจะทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่อยู่แล้ว รวมทั้งงบประมาณที่ซ้ำซ้อนด้วย

ขณะที่นายวิจารณ์ ตันติธรรม สมาชิกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คุณสมบัติที่รัฐกำหนดไว้สูงเกินไป บริษัทเล็กร่วมประมูลไม่ได้ แต่กลายเป็นทำให้รายใหญ่ได้งานทั้งบริษัทใหญ่จากต่างประเทศและในประเทศ ทั้ง ๆ ที่งานก่อสร้างในโครงการนี้ไม่ได้ใช้เทคนิคขั้นสูงมาก น่าจะจัดสรรให้บริษัทคนไทยแบ่งงานกันทำได้อย่างทั่วถึง


แท็ก ประกวด  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ