ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กคาดหวังมาตรการกระตุ้นดันดาวโจนส์ปิดพุ่ง 187.73 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday July 28, 2012 05:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเดินหน้าปิดในแดนบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) โดยดัชนีปิดที่เหนือระดับ 13,000 จุดได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. จากความหวังที่เพิ่มสูงขึ้นว่าธนาคารกลางทั้งในยุโรปและสหรัฐจะลงมือดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกไม่นานนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 187.73 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 13,075.66 จุด ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.ที่ดัชนีทะลุระดับทางจิตวิทยาที่ 13,000 จุด ดัชนี S&P 500 ทะยาน 25.95 จุด หรือ 1.91% ปิดที่ 1,385.97 จุด และดัชนี Nasdaq ทะยาน 64.84 จุด หรือ 2.24% ปิดที่ 2,958.09 จุด

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 1.97% ดัชนี S&P เพิ่มขึ้น 1.71% และ Nasdaq บวก 1.12%

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากหวังว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2555 ที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวช้าลง

โดยในวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้รายงานว่า เศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัว 1.5% ในไตรมาสสอง ซึ่งลดลงจากที่ขยายตัว 2.0% ในไตรมาสก่อนหน้า และเป็นอัตราการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสามของปี 2554 ซึ่งสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ชาวอเมริกันตัดลดการใช้จ่ายและการลงทุนทางธุรกิจชะลอตัวลงในไตรมาสดังกล่าว ขณะที่ปัจจัยที่สดใสในไตรมาสแรก อย่างการผลิตรถยนต์ ยอดขายคอมพิวเตอร์ การเคหะ และการซื้อสินค้ามีราคา เช่น เครื่องใช้และโทรทัศน์ กลับพากันอ่อนแรงลงในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.

เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวที่ซบเซาดังกล่าว ทำให้มีนักลงทุนจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆที่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐต้องยื่นมือเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอด้วยการประกาศมาตรการเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีข่าวว่ามีการหารืออย่างจริงจังมากขึ้นภายในเฟดว่าจะดำเนินการอย่างไรและเมื่อไร

วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอาจประกาศใช้มาตรการใหม่ๆในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.นี้ แม้มีความเป็นไปได้เช่นกันว่า เฟดอาจยังคงต้องรอถึงการประชุมในเดือนก.ย.เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานมากกว่านี้ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อย่างใกล้ชิด หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารได้ให้คำมั่นว่าจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อป้องกันสกุลเงินยูโรจากการล่มสลาย

ทั้งนี้ มีข่าวลือในตลาดว่า อีซีบีและรัฐบาลประเทศต่างๆในยูโรโซนกำลังเตรียมใช้มาตรการร่วมกันเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นความพยายามหนึ่งที่จะฉุดต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลีให้ปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า นายดรากิจะประชุมร่วมกับประธานธนาคารกลางเยอรมนีในอีกไม่กี่วันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการซื้อพันธบัตร รวมไปถึงการลดดอกเบี้ยลงอีก และการปล่อยกู้ระยะยาวแก่ธนาคารพาณิชย์

นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า หุ้นดึงดูดแรงซื้อทั่วทั้งกระดาน เนื่องจากนักลงทุนกล้าเสี่ยงมากขึ้น เพราะความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปบรรเทาลง หลังมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี และประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ เห็นพ้องที่จะใช้มาตรการทั้งหมดเพื่อปกป้องยูโรในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ของทั้งคู่ โดยมีแรงซื้อเข้ามามากขึ้นในภาคบ่าย ส่งให้หุ้นปรับตัวสูงขึ้นไปจนถึงช่วงปิดตลาด

สำหรับผลประกอบการภาคเอกชนที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้นมีทั้งบวกและลบ โดยหุ้นเอ็กซ์พีเดียทะยานกว่า 20% หลังบริษัทผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์รายงานผลกำไรดีเกินคาดในไตรมาสสอง พร้อมประกาศเงินปันผลรายไตรมาส อย่างไรก็ตาม หุ้นเฟซบุ๊กร่วงเกือบ 12% หลังยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กรายงานรายได้ที่ลดลงอย่างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ