BANPU ตั้งเป้าผลิตถ่านหิน 55 ล้านตันปี 58,เหมืองเกาเหอใกล้ได้ใบอนุญาต

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 14, 2012 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/55 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,734 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2 จากไตรมาส 1/55 ซึ่งจากการที่บริษัทดำเนินมาตรการลดค่าใช้จ่ายและมีแผนลดเงินลงทุน มีผลกระทบต่อปริมาณถ่านสำรองค่อนข้างน้อย โดยบริษัทยังคงมุ่งสร้างการเติบโตจากแหล่งสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายการผลิตถ่านหินโดยรวมที่ประมาณ 55 ล้านตันในปี 58 จาก 40 ล้านตันในปี 2554 ที่ผ่านมา

"บริษัทมีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยไม่ได้เน้นเฉพาะแต่สร้างการเติบโตทางธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียว แต่เรายังให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย บริษัทฯ มีความคล่องตัวและให้ความใส่ใจกับการบริหารความเสี่ยง การวางแผนรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ และการบริหารจัดการทางการเงิน ทั้งนี้ เรา มีความแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ที่มั่นคงจากทั้งธุรกิจไฟฟ้า และการขายถ่านหินป้อนตลาดในประเทศ ซึ่งสามารถช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทฯ ในสภาวะที่ราคาถ่านหินอ่อนตัวลง"นายชนินท์ กล่าว

ช่วงครึ่งแรกของปี 55 กำไรของบริษัทประมาณ 1 ใน 3 มาจากการดำเนินงานจากธุรกิจไฟฟ้า และการขายถ่านหินให้แก่ตลาดภายในประเทศ ส่วนอีก 2 ใน 3 มาจากการส่งออกถ่านหินไปยังกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับความไว้วางใจสูง

ไตรมาส 2/55 บริษัทมีกำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA จำนวน 7,227 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ร้อยละ 1 จากไตรมาส 1/55 โดยผลการดำเนินงานที่ดีเป็นผลมาจากปริมาณขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจากเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย และกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย สำคัญจากธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งสามารถช่วยชดเชยประเด็นปัญหาด้านการผลิตถ่านหินของ Centennial ในประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งภาวะราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับตัวลดลงได้

แม้ว่าราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียในไตรมาสนี้จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 95 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่ปริมาณการขายถ่านหินจากแหล่งดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านตันจากไตรมาส 1/55 เป็นผลจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของเหมืองอินโดมินโค และเหมืองทรูบาอินโด โดยปริมาณการผลิตถ่านหินจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซียในไตรมาส 2/55 มีจำนวน 6.8 ล้านตัน และมีเป้าหมายการผลิตถ่านหินในไตรมาส 3/55 ที่ 7.2 ล้านตัน และ 27 ล้านตันในปีนี้ ทั้งนี้ ธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียมี EBITDA จำนวน 4,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากไตรมาส 1/55

ในประเทศออสเตรเลีย การผลิตถ่านหินของ Centennial ในไตรมาส 2 มีปริมาณที่ลดลง ต่ำกว่า 3 ล้านตัน เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายเครื่องจักร Longwall ของเหมืองแมนดาลอง กอรปกับสภาพทางธรณีวิทยาที่ไม่เอื้ออำนวยของเหมืองสปริงเวลส์ ส่งผลให้ EBITDA จากธุรกิจถ่านหินในออสเตรเลียมีจำนวน 1,245 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ลดลงร้อยละ 25 จากไตรมาส 1/55 คาดว่า Centennial จะสามารถผลิตถ่านหินได้เต็มกำลังจากแหล่งผลิตหลัก (แองกัสเพลส แมนดาลอง และสปริงเวลส์) และมีปริมาณการผลิตรวมที่ประมาณกว่า 15 ล้านตันในปีนี้

ในประเทศจีน โครงการเหมืองเกาเหอมีความคืบหน้าเป็นอย่างดี มีปริมาณการผลิตถ่านหิน (ก่อนเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์) ที่ 1.2 ล้านตัน และมี EBITDA จำนวน 40 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 2/55 ทั้งนี้โครงการเหมืองเกาเหอได้ผ่านการตรวจสอบจากรัฐบาลจีนอย่างเป็นทางการแล้ว และคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตทางด้านการผลิต และความปลอดภัยในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้

ส่วนธุรกิจไฟฟ้าในไตรมาส 2/55 มี EBITDA จำนวน 848 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 78 เป็นผลมาจากค่าความพร้อมจ่ายกระแสไฟฟ้า (Availability Payment) เพิ่มขึ้น และต้นทุนการผลิตที่ลดลงของโรงไฟฟ้า BLCP ในขณะที่การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าหงสาในประเทศลาวมีความคืบหน้าประมาณร้อยละ 20 และคาดว่าจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 58 ตามที่กำหนดไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ