น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยในฐานะที่เป็นกระทรวงต้นสังกัดของ บมจ. กสท โทรคมนาคม (CAT) และ บมจ. ทีโอที (TOT)ว่า กระทรวงฯ มีนโยบายให้หน่วยงานโทรคมนาคมในสังกัดไม่ควรดำเนินการใดๆ ที่จะทำให้การประมูลใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) 3 จี 2.1GHz มีปัญหาต้องถูกระงับอีก เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายอยากเห็นอุตสาหกรรมโทรคมนาคมพัฒนาไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด
"ในการประมูลไลเซ่นส์ 3 จีที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน ต.ค. จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมพัฒนาไปมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะการกระจายโครงข่ายพื้นฐานด้านโทรคมนาคมให้เข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน จึงต้องการให้การประมูลเกิดขึ้นตามแผนที่กสทช. ได้กำหนดไว้" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ CAT เคยเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ระงับการประมูลไลเซ่นส์ครั้งที่แล้วเมื่อปี 2553 โดยเห็นว่าคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ไม่มีอำนาจที่จะเปิดประมูล เพราะต้องรอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตาม พ.ร.บ.กสทช. ดังนั้น ในกระบวนการประมูลไลเซ่นส์ 3 จี ครั้งนี้เป็นอำนาจดำเนินการที่ถูกต้องแล้ว
สำหรับการเข้าหารือเรื่องแนวทางการดำเนินการร่วมกันในภารกิจโทรคมนาคมกับ กสทช.ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อให้การทำงานมีความราบรื่นมากขึ้น โดยโครงการที่จะเห็นเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด คือ การกระจายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (WIFI) ในที่สาธารณะ โดยใช้งบจากกองทุน กสทช. 980 ล้านบาท และความชัดเจนเรื่องการคืนคลื่นของ TOT และ CAT ที่จะต้องได้ข้อสรุปภายใน 90 วัน
ด้านนายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT กล่าวว่า CAT ต้องการให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเกิดการพัฒนาไปเช่นเดียวกัน ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดที่จะยับยั้งการประมูล 3 จี แม้จะไม่เห็นด้วยในเรื่องที่กสทช.กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ได้รับไลเซ่นส์ต้องใช้โครงข่ายร่วมกัน (Infrastructure Sharing)ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม CAT อยู่ระหว่างการทำรายละเอียดและความจำเป็นในการใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz ที่กำลังจะหมดอายุสัมปทานจาก บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (DPC) ในเดือน ก.ย.2556 เพื่อเสนอให้กสทช.พิจารณา