(เพิ่มเติม) KCE คาดปี 56 กำไร-รายได้ทุบสถิติ,ทุ่ม 2.8 พันลบ.สร้างรง.ใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 28, 2012 15:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิธาน องค์โฆษิต รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) คาดว่า ในปี 56 รายได้และกำไรของบริษัทจะทำสถิติสูงสุด หลังจากโรงงาน KCE Technology(KCET)ในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ที่จ.พระนครศรีอยุธยาจะกลับมาผลิตเต็มกำลังในไตรมาส 1/56 บริษัทคาดว่าจะทำให้รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปีนี้ และมีโอกาสทุบสถิติเดิมที่เคยทำยอดขายไว้สูงสุดที่ 253 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 53 ขณะเดียวกันกำไรสุทธิก็น่าจะทำจุดสูงสุดใหม่จากที่เคยทำไว้ 534.6 ล้านบาทในปี 53 เช่นกัน

สำหรับปี 55 คาดว่า KCE จะมียอดขาย 210 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่ำว่าปี 54 ที่มียอดขาย 229 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าครึ่งปีหลังจะมียอดขายเติบโตเป็นประมาณ 110-120 ล้านเหรียญสหรัฐ จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 87 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประเมินว่าไตรมาส 3/55 จะมียอดขาย 52 ล้านเหรียญสหรัฐ และไตรมาส 4/55 จะมียอดขายสูงสุด จากการที่โรงงาน KCET ทยอยกลับมาผลิตในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยจะมีกำลังผลิตเพิ่มเป็น 70-80% จากขณะนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 65%

ส่วนกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 150 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 210 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสแรกบริษัทมีผลขาดทุน 100 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/55 ผลประกอบการ Break Event ส่วนไตรมาส 3/55 และไตรมาส 4/55 คาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 100 ล้านบาท และ 150 ล้านบาทตามลำดับ

ขณะที่บริษัทยังมีเงินชดเชยค่าสูญเสียโอกาสทางธุรกิจเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมที่จะได้รับจากบริษัทประกันภัย จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้มีกำไร 450-500 ล้านบาท แต่ในส่วนของรายได้จากการเงินประกันสินทรัพย์หรือเครื่องจักรโรงงาน KCET ถูกน้ำท่วมรวม 2.6 พันล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกได้รับมาแล้ว 900 ล้านบาท ยังไม่ได้มีการบันทึกเป็นรายได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับชำระทั้งจำนวน

อย่างไรก็ตาม นายพิธาน กล่าวว่า หลังจากโรงงาน KCET ถูกน้ำท่วม บริษัทจึงมีการออกแบบโรงงานใหม่ ซึ่งสามารถลดจำนวนแรงงานและลดอัตราของเสียที่เคยสูงถึง 9% เหลือเพียง 6% ทำให้อัตรากำไรสุทธิ(net margin)ปี 55 สูงเกิน 10% จากปี 54 ที่อยู่ที่ 7-8% และปี 56 เดินเครื่องเต็มกำลังผลิตจะสามารถทำกำไรได้ดีขึ้นอีก ประกอบกับในปีหน้าจะรับรู้กำไรจากบริษัท เคมโทรนิคส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย)ที่ KCE เพิ่งเข้าเทคโอเวอร์ราว 60 ล้านบาท

และถึงแม้บริษัทจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป และปัญหายังยืดเยื้อ แต่บริษัทได้หาลูกค้าใหม่เข้ามาชดเชย ได้แก่ ญี่ปุ่น และอิตาลี ซึ่งมีโรงงานในจีน และมีลูกค้ารายใหญ่เพิ่มเข้ามาตั้งแต่เดือน ส.ค.55 ทำให้โดยรวมแล้วได้รับผลกระทบน้อยกว่า 10% ขณะที่ลูกค้ารายใหญ่จะทยอยเพิ่มออเดอร์ไปถึงปีหน้า

"crisis ยุโรปมีผลต่อ KCE Group ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเรามีผลกระทบที่เกิดขึ้นน้อยกว่า 10% เนื่องจากในช่วง 2-3 ปี เราเร่งหาลูกค้าใหม่เยอะ ปีนี้ปีหน้าเริ่มเข้ามาจริงจัง" นายพิธาน กล่าว

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นหลัก 55% และได้กระจายไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น 15-18%, สินค้า consumer กว่า 10% และ กลุ่ม net work เช่น กล่องส่งสัญญาณ WIFI ประมาณ 8-9%

นอกจากนี้ บริษัท เตรียมสร้างโรงงานใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิต จำนวน 2 ล้านตร.ฟุต/เดือนที่ลาดกระบัง เตรียมพื้นที่ไว้กว่า 20 ไร่ งบลงทุน 2.8 พันล้านบาท โดยจะมาจากแหล่งเงินกู้ 80% ที่เหลือมาจากกระแสเงินสด โครงการนี้จะแบ่งดำเนินการเป็น 3 เฟส เฟส 1 มีกำลังผลิต 7 แสนตร.ฟุต/เดือน เฟส 2 มีกำลังผลิต 7 แสนตร.ฟุต/เดือน และ เฟส 3 มีกำลังผลิต 6 แสนตร.ฟุต/เดือน คาดว่า ไตรมาส 1/56 น่าจะมีความชัดเจน และใช้เวลาก่อสร้างโรงงานประมาณ 9 เดือน คาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้ในปี 57

"ตลาดดูไม่ดี แต่ก็ยังมี Room โตได้ ผมมอง crisis ตอนนี้ถึงปีหน้ายังนิ่งๆ ปี 2014 อาจเริ่มดีขึ้น" นายพิธาน กล่าว

ปัจจุบัน KCE มี 3 โรงงาน ได้แก่ KCET ที่อยุธยา , KCEI ที่สมุทรปราการ และ KCE ที่ลาดกระบัง มีกำลังการผลิตรวม 2.5 ล้านตร.ฟุต/เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ