เครือ CP บุกสร้างแบรนด์อาหารปลอดภัยในตลาดจีนเริ่มจากโครงการไก่ไข่ผิงกู่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 12, 2012 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CP)วางแผนสร้างแบรนด์"ซีพี"ในตลาดจีน เริ่มจากโครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่ที่บริษัทจะทำเป็นโมเดลเกษตรกรรมแนวใหม่ โดยมุ่งกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญ Food Safety พร้อมกันนั้นบริษัทมีโอกาสก้าวเข้าไปทำปศุสัตว์แบบเกษตรแนวใหม่ ที่วางแผนไว้ 10 มณฑลในจีน

นายวะรัตน์ ศรีฟ้า รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพีเอฟ(ประเทศไทย) ซึ่งเป็ษบริษัทย่อยของบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะที่ปรึกษาโครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เจริญโภคภัณฑ์ ว่าโครงการนี้เป็นโครงการเกษตรกรรมทันสมัยแห่งแรกที่เครือซีพีได้ดำเนินการร่วมกับรัฐบาลจีน โดยใช้โมเดล 4 ประสาน ผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้อง 4 ฝ่าย ได้แก่ รัฐบาล เกษตร บริษัทเอกชน และ ธนาคาร สร้างโครงการไก่ไข่ครบวงจรที่ทันสมัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนที่ดิน 324 ไร่ ณ หมู่บ้านซีพานเกอจวง ตำบลยู่โค เขตผิงกู่ นครปักกิ่ง เป็นมูลค่าการลงทุนรวม 720 ล้านหยวนหรือประมาณ 3,600 ล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว โดยจะมีไข่ไก่รุ่นแรกผลิตออกสู่ตลาดในเดือนต.ค.นี้ โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่นี้ มีเกษตรกรจีนเข้าร่วม 1,900 ครอบครัว หรือประมาณ 6,000 คน โดยโครงการนี้ประกอบด้วยโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด จำนวน 18 หลัง สามารถเลี้ยงไก่ได้ 3 ล้านตัว มีโรงงานอาหารสัตว์และโรงงานแปรรูปไจ่ นอกจากนี้กระบวนการผลิตเกือบทั้งหมดควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้แหล่งทุนโครงการนี้ได้จากการกู้ยืมของธนาคาร สัดส่วน 70%ของมูลค่าโครงการ 3,600 ล้านบาท ส่วน 15% ทางการเป็นผู้สนับสนุน และอีก 15% เครือซีพีให้กู้ยืม โดยดอกเบี้ยที่คิดร้อยบะ 7 ต่อปี รัฐบาลเป็นผู้จ่ายให้

โครงการนี้เกิดจากปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหาร วิกฤตอาหารปลอดภัยได้สร้งความเสียหายต่อชื่อเสียงของประเทศจีนสูงมาก รัฐบาลจีนจึงออกนโยบายโครงการเกษตรกรรมแนวใหม่เพื่อผลิตอาหารปลอดภัยและสร้างอาชีพที่มั่นคง และที่เลือก ผิงกู่ ทำโครงการนำร่องเพราะผิงกู่ เป็นเมืองที่มีฐานะยากจนที่สุด

นายวะรัตน์ กล่าวว่า เครือซีพีได้สิทธิรับจ้างโครงการดังกล่าวเป็นเวลา 18 ปี โดย 8 ปีแรกเครือซีพีจะบริหารและมีรายได้จากการขายไข่ไก่ประมาณปีละ 700 ล้านหยวนจากกำลังการผลิต 2 ล้านฟอง/วัน ซึ่งจะเต็มกำลังการผลิตในปีที่สอง ขณะที่มีค่าใช้จ่ายปีละ 550-600 ล้านหยวน รวมค่าเช่าที่ดิน 63 ล้านหยวนต่อปีที่จ่ายให้เกษตรกร ส่วน 10 ปีที่เหลือเกษตรกรจะตัดสินใจว่าจะเข้าทำเองหรือจ้างเครือซีพีบริหารทำต่อไป

"เครือซีพีจะขายไข่ได้ประมาณ 700 ล้านหยวนต่อปี ขึ้นกับราคาไข่ไก่ โดยจะเริ่มวางตลาดในเดือนต.ค.55 โดยใช้แบรนด์ CP เพื่อทำแบรนด์เป็นอาหาร Food Safety จริง สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ benefit ของเราอยู่ตรงนี้ ส่วนรัฐบาลเกษตรกรก้ได้โนว์ฮาว" นายวะรัตน์กล่าว

ตลาดจีน ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก จีนมีประชากร 1,400 ล้านคน โดย 10% ของประชากร หรือ 140 ล้านคนจัดอยู่ระดับเศรษฐี การขายสินค้าอาหารที่มีแบรนด์ จะทำได้ไม่ยาก โดยปกติ ราคาไข่ไก่ในจีนมีราคาสูงกว่าในไทย ขณะนี้มีผู้ว่าจากหลายมณฑลหรือเกือบทั้งหมดทีมีอยู่ 22 มณฑลเข้ามาติดต่อและแสดงความสนใจที่ต้องการให้เครือซีพีเข้าไปช่วยจัดการบริหารโครงการเกษตรแนวใหม่ให้เช่นกัน

นายวะรัตน์ กล่าวว่า เครือซีพีได้วางแผนจะทำต่อเนื่องไปอีก 10 มณฑล ทั้งทางตอนเหนือ ตะวันออก ตะวันตก และ ทางใต้ ซึ่งได้แก่ ซินเจียง ที่ต้องการให้ช่วยทำเกษตรทั้งการเลี้ยงสุกร ไก่ ไข่ไก่ และ เหอเป่ย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดู มณฑลลี่หลิง เข้ามาติดต่อดูงานแสดงความสนใจอย่างต่อเนื่อง ก็มีความเป็นไปได้จะทำต่อจากโครงการผิงกู่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ