โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำให้"ซื้อ"หุ้นบมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)จากการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ที่มีสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์มาใช้เพิ่มเติม ซึ่งยังมีความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 38 ล้านคน เป็นการสร้างรายได้จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ ขณะเดียวกันช่วยเพิ่มลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิ
ประกอบกับคาดว่าจะปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน(PSC)ที่จะมีผลในไตรมาส 4/56 โดยนักวิเคราะห์บางรายปรับราคาพื้นฐานหุ้น AOT จากปัจจัยนี้ด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศจึงต้องติดตามต่อไป และอัตราการเติบโตของผู้โดยสารยังมีแนวโน้มดีจากฤดูการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งการขยายตัวของผู้โดยสารจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
โบรกเกอร์ ตำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท)
บล.ธนชาต ซื้อ 90
บล.เคจีไอฯ ซื้อ 88
บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อ 85
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 79(ปี 56)
บล.เอเชียพลัส ถือ 77
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวแนะนำ"ซื้อ" AOT ให้ราคาเป้าหมาย 79 บาท สำหรับปี 56 ยังไม่รวมการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน(PSC) หากได้ปรับขึ้นจริงราคาเป้าหมายจะเพิ่มอีก 11 บาท รวมเป็น 90 บาท ดังนั้น ราคายังมี upside
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะเริ่มมีผลปรับค่าธรรมเนียมฯได้ในไตรมาส 4 ของงวดปี 56 หากประกาศได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยการปรับค่าธรรมเนียม จะปรับค่าธรรมเนียมผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มจาก 700 บาท เป็น 800 บาท และผู้โดยสารในประเทศปรับเพิ่มจาก 100 บาทเป็น 250 บาท
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือ สนามบินดอนเมือง ที่ย้ายสายการบินต้นทุนต่ำหรือโลว์คอสต์แอร์ไลน์ ทีมียอดผู้โดยสาร 7 ล้านคน และแนวโน้มผู้โดยสารจะเติบโตต่อเนื่อง เท่ากับ capacity ของ AOT เพิ่มโดยไม่ต้องลงทุนใดๆ เพิ่มเติม ขณะเดียวกันช่วยให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 49 ล้านคน ในเดือน ต.ค.นี้จะเหลือ 42 ล้านคน
คาดว่ากำไรสุทธิงวดปี 55(สิ้นสุด ก.ย.55)จะอยู่ที่ 5,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.4% จากปีก่อน และในปี 56 คาดมีกำไรสุทธิ 7,662 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.9%
นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา แนะนำทยอยสะสมหุ้น AOT ให้มูลค่าพื้นฐานสำหรับปี 56 ที่ 85 บาท จากมูลค่าพื้นฐานปี 55 ที่ 65 บาท แต่ในระยะสั้นยัง underperform กลุ่ม เพราะรับข่าวดีไปหมดแล้ว ทั้งประเด็นการปรับขึ้นค่าธรรมเนียม(PSC)ที่คาดว่าจะประกาศออกมาใน 1-2 เดือนนี้ และเล่นประเด็นการย้ายโลว์คอสต์แอร์ไลน์มาที่สนามบินดอนเมืองในเดือนต.ค.ซึ่งสนามบินดอนเมืองรองรับผู้โดยสารได้ 38 ล้านคน
"เล่นกันไปแล้ว เพียงแต่ว่าที่ผ่านมากลุ่ม transport ถือเป็นกลุ่มขนาดกลางและ laggard ตัวนำตลาดอยู่ ตอนนี้ก็มาปรับขึ้นเพื่อให้เท่ากับตลาดเท่านั้นเอง ราคาที่เห็นวันนี้เป็นราคาที่เล่นสำหรับผลการดำเนินงานในปีหน้าแล้ว ถ้าใครมีหุ้นอยู่ ไม่จำเป็นต้องขาย ...ตราบใดยังไม่ประกาศ(PSC) ก็คงยังไม่จบรอบ เล่นกันจนกว่าประกาศ"นายสิทธิเดช กล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงว่าถ้าหากคณะกรรมการการบินพลเรือนไม่อนุมัติการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมตามที่ AOT เสนอมา นักวิเคราะห์ก็อาจต้องปรับลดประมาณการลงไป นอกจากนี้ งบในไตรมาส 4/55(ก.ค.-ก.ย.55)จะเป็นไตรมาสที่แย่สุด เพราะมีการจ่ายเงินโบนัสให้พนักงานในงวดสุดท้ายของปี
บล.เคจีไอ แนะนำ"ซื้อ"AOT และให้ราคาเป้าหมายสำหรับปี 56 ที่ 88 บาท คำนวณโดยวิธี DCF โดยที่ปัจจัยสนับสนุนในระยะสั้นได้แก่ 1.การเปิดให้บริการสนามบินดอนเมืองอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2.จะมีการอนุมัติการคิดค่าบริการผู้โดยสาร(PSC)อัตราใหม่ภายในสิ้นปีนี้ และ 3. จำนวนผู้โดยสารทางอากาศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงฤดูท่องเที่ยว
ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนในระยะยาวได้แก่การมาเกิดขึ้นของ AEC ในปี 58 จะมีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการสนามบินของ AOT ส่วนความเสี่ยงหลักได้แก่การเลื่อนการนำ PSC อัตราใหม่มาใช้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการอนุมัติของคณะกรรมการการบินพลเรือน ซึ่งหากเราไม่รวมการนำ PSC อัตราใหม่มาใช้ในประมาณการ ราคาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 72 บาท