BANPU ใช้สิทธิอุทธรณ์ หลังศาลฯ ชั้นต้นให้จ่ายค่าเสียหายคดีหงสา

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 27, 2012 14:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกริกไกร จีระแพทย์ ประธานกรรมการ บมจ.บ้านปู (BANPU) ออกแถลงการณ์ว่า หลังบริษัทได้รับรายงานข้อมูลเบื้องต้นคำพิพากษาศาลชั้นต้น กรณีคดีโครงการโรงไฟฟ้าหงสา จากสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายและทนายความ จึงขอชี้แจงต่อผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้เสีย และสาธาณชนว่า บริษัทก่อตั้งบริษัทในปี 2526 มาจนถึงปัจจุบันนี้ คณะกรรมการ และฝ่ายบริหาร ได้ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความถูกต้องตามกฎหมาย จริยธรรม ความชอบธรรม และธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้เสีย สังคม และ ศักดิ์ศรีของประเทศเป็นสำคัญ

บริษัทฯ มีความเจริญก้าวหน้า และสามารถขยายธุรกิจการลงทุนไปยังประเทศต่างๆ กว่า 5 ประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย จีน ลาว และมองโกเลีย โดยได้รับการยอมรับ ยกย่อง และเชื่อถือ จากนานาชาติ นานาสถาบัน นักลงทุน ทั้งในปรัชญา วิธีการ และผลของการดำเนินธุรกิจผลงานด้านธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และความสามารถในการบริหาร ได้รบการเชิดชูจากหลาย ๆ ประเทศ บริษัทฯ จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้วิธีการอันไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม หรือความไม่สุจริต ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นที่ใดๆ ในโลกนี้

บริษัทฯ เคารพในสถาบันยุติธรรม และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ กรณีนี้บริษัทฯ ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา ในประเด็นข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย บริษัทฯ จะใช้สิทธิในการเรียกร้องความเป็นธรรมโดยการอุทธรณ์ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

"ขอให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และสาธารณชน ได้โปรดมีความเชื่อมั่นว่า บริษัทฯ จะยังคงยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และเพื่อความสำเร็จในทางธุรกิจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และการแข่งขันที่รุนแรง เพื่อประโยชน์ของท่านทั้งหลายและประเทศ โดยยึดมั่นในหลักความสุจริต ธรรมาภิบาล และความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป" แถลงการณ์ ระบุ

อนึ่ง เมื่อวันที่ 20 ก.ย.55 ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้ BANPU และบริษัท บ้านปูเพาเวอร์ จำกัด ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายศิวะ งานทวี และกลุ่มของนายศิวะ เป็นโจทก์ยื่น เป็นค่าข้อมูลจำนวน 4 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น และค่าขาดประโยชน์เป็นเงินรายปี ปี 2558-2570 ปีละ 860 ล้านบาท และปี 2571-2582 ปีละ 1,380 ล้านบาท

ทางโจทย์ได้อ้างว่าบริษัทได้ทำการหลอกลวงโดยเข้าร่วมทำสัญญาร่วมทุน เพื่อประสงค์จะได้ข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหิน รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ที่เมืองหงสา ประเทศลาว และได้ใช้สิทธิไม่สุจริตในการรายงานเท็จทำให้รัฐบาลลาวยกเลิกสัปทานเหมืองถ่านหินและสัญญาก่อสร้างและดำเนินกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้าของศิวะและพวก เพื่อบริษัทจะได้เข้าทำสัญญากับรัฐบาลลาวเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ