นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ แม้ว่า Flow จะยังไหลเข้า แต่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลง 3-4% น่าจะเป็นแรงกดดันให้กับหุ้นในกลุ่มพลังงาน ทำให้ตลาดฯไปไม่ค่อยได้ อีกทั้งปกติงบฯแบงก์จะประกาศออกมา นักลงทุนจะมีการเข้ามาเล่นกันก่อนแต่รอบนี้ยังไม่เห็นมากนัก มองว่านักลงทุนยังลังเลที่จะเข้าตลาดฯช่วงนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเห็นว่าตลาดฯปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว
นอกจากนี้ ตลาดทั่วโลกก็เริ่มมีสัญญาณการพักฐาน โดยเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็มีการปรับตัวลงเล็กน้อย ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯจะอยู่ในวันศุกร์มากกว่า ด้านตัวเลข PMI ของจีน และยุโรปก็ออกมาไม่ดี
อีกทั้งทาง ADB ก็ยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP ของไทยลง โดยปีนี้คาดว่า GDP ของไทยจะเติบโต 5.2% จากเดิมคาดจะโต 5.5% และปี 56 คาดว่าจะเติบโต 5% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 5.5% ซึ่งภาพรวมทางเศรษฐกิจยังไม่ดี แต่ตลาดคงยังปรับตัวขึ้นได้บ้าง เป็นเพราะสภาพคล่องที่ยังมีท่วมอยู่
ดังนั้น ช่วงนี้ควรเทรดดิ้งเป็นรายตัวโดยมองสัญญาณทางเทคนิคเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าตลาดมี valuation ที่ไม่ถูกแล้ว แต่ก็ยังลงทุนหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์, กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอาหาร ได้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,300-1,310 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(3 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,494.61 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด(+0.09%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,450.99 จุด เพิ่มขึ้น 5.24 จุด(+0.36%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,135.23 จุด เพิ่มขึ้น 15.19 จุด(+0.49%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 36.26 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 26.04 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 6.15 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.70 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.75 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 8.46 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.09 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 1.00 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(3 ต.ค.)ที่ระดับ 1,307.55 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด(+0.14%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,082.44 ล้านบาทเมื่อ 3 ต.ค.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 88.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 3.75 ดอลลาร์หรือ 4.08%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(3 ต.ค.)ปิดทำการที่ 8.6 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 30.65/67 คาดวันนี้แกว่งแคบไร้ปัจจัยใหม่
- รัฐบาลรับข้อเสนอแนะ "วีรพงษ์" ติงนโยบายจำนำข้าว ยันโครงการเป็นประโยชน์กับชาวนาและระบบเศรษฐกิจ พร้อมสั่งตรวจสอบทุจริตเข้มงวด "บุญทรง"ยันขายข้าวรัฐต่อรัฐ 5 ประเทศได้ 7 ล้านตัน สัญญาระยะยาวส่งมอบถึงปีหน้า ขณะที่ผู้ส่งออกระบุไม่มีสัญญาณเรือเข้ารับมอบข้าว ชี้เดือนก.ย.ส่งออก 5 แสนตันเป็นของเอกชน
- กทค.รับลูกตามคณะอนุฯ กฎหมายรองรับแผนหลังสัมปทานหมด ยันคลื่นความถี่ทุกย่านต้องส่งคืน กสทช.มาจัดสรรใหม่ เพื่อเปิดประมูลเท่านั้นตามเจตนารัฐธรรมนูญ พร้อมวางกรอบโรดแมพคลื่นทุกย่านในอุตสาหกรรม วางแพลนทุกอย่างในอนาคตให้ 5 ปี "เศรษฐพงค์"ระบุแผนงานคืนคลื่น 1800 ของ ทรูมูฟ-ดีพีซีเสร็จในเดือนธ.ค. นี้แน่ คาดดีเดย์ทรานซิชั่น พีเรียด ก่อนประมูลต้องไม่เกิน 3
- เอดีบี หั่นเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้ เหลือ 5.2% จากผลกระทบเศรษฐกิจโลกและลงทุนบริหารน้ำล่าช้า คาดปีหน้าโต 5% ด้าน "กิตติรัตน์" หวังท่องเที่ยวไตรมาสสุดท้ายหนุน ขณะที่ "ประสาร" ชี้ปีหน้าการขยายตัวเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยเสี่ยง
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยเดือนก.ย. 2555 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดทุกรายการเป็นเดือนแรก และบางรายการลดต่ำสุดในรอบ 4-10 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(CCI) เดือนก.ย. อยู่ที่ 77.0 ลดจาก ส.ค. 77.9 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่ำเป็นเดือนที่4 และต่ำสุดรอบ 4 เดือน
- เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ยอมรับบางราย คิดดอกเบี้ยสูงเกินจริง ผลจากต้นทุนการบริหารจัดการ กับความเสี่ยงที่สูง ปล่อยกู้ 100 คัน ยึดรถคืน 25 คัน อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายเฉพาะเข้ามาดูแล ด้านสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยแจง ไม่มีอำนาจเข้าไปดำเนินการกับเช่าซื้อนอกระบบ ระบุการแข่งขันสินเชื่อของไทย ถือว่าสมบูรณ์และเสรี ควรปล่อยให้ดอกเบี้ยเป็นไปตามกลไกตลาดภาวะการแข่งขัน โดยประชาชนเป็นผู้เลือก
- ก.ล.ต.ร่วมหารือคมนาคม เร่งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับภูมิภาค ด้วยการออกหลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นกลไกสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศในระยะยาว และยังเป็นการพัฒนาสินค้าทางการเงินเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนด้วย
- ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ทำสถิติมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าพันล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี มีจำนวนวันที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าพันล้านบาท มากกว่า 50 วันทำการ สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง และ market capitalization แตะระดับแสนล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- HMPRO(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 15.60 บาท การขยายสาขาเป็นไปตามแผน คาด Q3/4 ยังเติบโตได้ดี จากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่มทั้งป้องกันน้ำท่วมรอบใหม่และหากไม่มีน้ำท่วมอีกรอบก็จะมีการซ่อมแซมความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งก่อนถาวร คาดกำไรสุทธิปี 55-56 โต 36% และ 20% ตามลำดับ, รับผลกระทบภายนอกจำกัด-ได้อานิสงส์อุปสงค์ในประเทศโต-ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ ROE สูง ประเมินไว้ที่ 29% ในปี 55 และ 30% ในปี 56
- TISCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 54.00 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q55 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1 พันล้านบาท เติบโต 11% yoy และ +9% qoq ตามสินเชื่อที่โต +9.7% qoq จากแรงผลักดันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทิศทางช่วงที่เหลือของปีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามตลาดรถยนต์ พร้อมคาดว่ากำไรสุทธิปี 55 โต +15% yoy และ +20% yoy ในปี 56,มี ROE สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร และคาดปี 55 จ่าย 2.50 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.3%
- THCOM(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 22 บาท แม้ Q3/55 คาดมีกำไรปกติลดลง 8.5% QoQ แต่หากรวมรายการพิเศษจาก FX จะหนุนให้กำไรโต 59% QoQ โดย iPSTAR ยังคงมีศักยภาพการเติบโตที่ดีด้วยอัตรา Utilization Rate ที่ต่ำเพียง 25% และใน Q4/54 คาดเซ็นสัญญาลูกค้าไทย-อินเดียเพิ่ม จะเพิ่ม Utilization Rate อย่างมีนัยฯ,หากขาย Mfone สำเร็จ จะส่งผลบวกต่อมูลค่าพื้นฐานอีก 3 บาท