5 โบรกเกอร์มองเป้าดัชนี SET ในช่วงที่เหลือของปี 55 ไปจนถึงปี 56 จะอยู่ในระดับ 1,328-1,450 จุด คิดเป็น P/E ในช่วง 13-15.75 เท่า และคาดการณ์การเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ปีนี้ในช่วง 15-23% ส่วนปีหน้าคาดว่ากำไร บจ.จะเติบโตในช่วง 10-19%
ช่วงนี้ตลาดฯคงจะปรับฐานก่อนที่จะขยับขึ้นต่อไป ดังนั้น โบรกฯจึงแนะนำให้ลงทุนหุ้นด้วยการดู bottom up valuation ของหุ้นรายตัวมากกว่าที่จะดูเป็นรายกลุ่ม
ส่วนหุ้นที่ยังน่าจะลงทุนได้อยู่จากนี้ไปจนถึงปี 56 เป็นหุ้นในกลุ่ม Domestic plays เป็นหลัก อย่างกลุ่มแบงก์, สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น แต่ก็มีบางโบรกเกอร์ให้น้ำหนักลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาหุ้นยัง Laggard และคาดว่าผลกำไรในช่วง H2/55 จะไม่ออกมาเลวร้าย
โบรกเกอร์ เป้าหมายดัชนี ปี 55 ปี 56 DBSV N/A 1,442 KTBST 1,328 1,422 MBKET 1,328 1,400 CIMB 1,350 N/A TNITY 1,350 1,450
*DBSV เพิ่มเป้าดัชนี SET ขึ้นเป็น 1,442 จุด-เชียร์ Domestic plays
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)หรือ DBSV กล่าวว่า ล่าสุดฝ่ายวิจัยได้มีการปรับเป้าหมายดัชนี SET ในรอบ 1 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,442 จุด คิดเป็น P/E 15.75 เท่า เมื่อคิดจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 15% และคิดเป็น P/E 13.4 เท่า เมื่อคิดจากผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนของปี 56 ที่คาดว่าจะเติบโต 19%
ทั้งนี้ เป็นการปรับเป้าหมายดัชนี SET ภายหลังจากที่สหรัฐฯได้มีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE3)ออกมา เพราะได้มีการมองถึงสภาพคล่องที่จะเข้ามาในตลาดฯ เพิ่มขึ้น
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อหุ้นใหม่ โดยหุ้น Top picks ในเชิงพื้นฐานของเดือนตุลาคม คือ หุ้น AOT, CS, KTB, SC, STEC แต่ถ้าเป็นหุ้น Dark Horse จะเป็นหุ้น CPN, JAS, STPI แต่หากมองภาพโดยรวมจากนี้ไปหุ้นที่แนะนำให้ลงทุนเป็นหุ้นในกลุ่ม Domestic plays อย่างกลุ่มแบงก์, สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
*KTBST เพิ่มเป้า SET ปีนี้เป็น 1,328 ปี 56 เป้า 1,422 จุด-เชียร์กลุ่มพลังงาน
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย) (KTBST)กล่าวว่า ขณะนี้ได้ขยับเป้าหมายดัชนี SET ปีนี้ขึ้นเป็น 1,328 จุด คิดเป็น P/E 13.6 เท่า และคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้จะเติบโตประมาณ 15%
ส่วนเป้าหมายดัชนี SET ปี 56 ตั้งไว้ที่ 1,422 จุด คิดเป็น P/E 13.5 เท่า และคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในปี 56 จะเติบโต 12%
"ช่วงสั้นแนะนำว่าเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นก็ให้ขาย แต่ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลงก็ควรซื้อในบริเวณที่ดัชนี SET อยู่แถว 1,300 จุดขึ้นไป เพราะมองว่าคงจะต้องมีบางส่วนที่จะถูกขายทำกำไรออกมาบ้าง"นายปริญทร์ กล่าว
พร้อมแนะนำหุ้นที่น่าลงทุนจากนี้ไปจนถึงปี 56 เป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยจะให้น้ำหนักกลุ่มนี้เป็นหลัก เนื่องจากราคาหุ้นยัง Laggard และคาดว่าผลกำไรในช่วง H2/55 จะไม่เลวร้าย แต่ตอนนี้ก็ยังคงมีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะลงทุน
*MBKET มองเป้า SET ปีนี้ 1,328 ปีหน้า 1,400 จุด-เชียร์แบงก์-ที่ดิน-ท่องเที่ยว
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)หรือ MBKET กล่าวว่า บริษัทฯได้มองเป้าดัชนี SET ปี 55 ที่ระดับ 1,328 จุด คิด P/E เท่ากับ 13 เท่า และคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้จะเติบโต 21%
ส่วนปี 56 มองเป้าดัชนี SET ไว้ที่ 1,400 จุด คิด P/E เท่ากับ 13 เท่า และคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 10% โดยหุ้นที่น่าสนใจเข้าลงทุนในปีหน้า คือ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์, พัฒนาที่ดิน และท่องเที่ยว ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงาน แนะนำให้เทรดดิ้งตามรอบไปก่อน เพราะยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกประเทศ
*CIMB คงเป้าดัชนี SET ปีนี้ที่ 1,350 จุด-เชียร์กลุ่ม Domestic plays
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)หรือ CIMB กล่าวว่า ยังคงเป้าดัชนี SET ปีนี้ไว้ที่ 1,350 จุด คิดเป็น P/E 13.3-13.4 เท่า คาดว่าปีนี้บริษัทจดทะเบียนจะมีผลกำไรเติบโตประมาณ 23%
สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้แนะนำกลุ่ม Domestic plays อย่างกลุ่มแบงก์ที่มองว่าผลประกอบการยังคงดีต่อเนื่อง, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และ Infrastructure เป็นต้น ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีตอนนี้ยังไม่แน่ใจในการให้เข้าลงทุน เนื่องจากปัญหาในยุโรป และสหรัฐฯยังไม่จบ และเศรษฐกิจจีนก็ยังไม่มีความชัดเจน แต่ถ้าปัจจัยนอกประเทศดีเชื่อว่ากลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีจะฟื้นตัวได้
"แม้ว่าราคาหุ้นในปัจจุบันจะถือว่าแพง แต่ก็ยังเล่นได้ เพียงแต่ควรจะเล่นเก็งกำไรตามรอบไป ยังไม่ควรลงทุน เพราะจะต้องระวังแรงขายของนักลงทุนต่างชาติด้วย ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติได้ Hold หุ้นไทยไว้มากแล้ว และมีโอกาสที่จะขายออกมาได้ทุกเมื่อ แม้จะขายที่ระดับ 1,170 จุดเศษ ก็ยังมีกำไร เพราะเขาก็ได้ปันผลไป 2 รอบแล้ว เงินบาทแข็งค่า เขาก็กำไรอยู่ แต่มองว่าถ้าต่างชาติจะขายก็ต้องมีเหตุผล"นายธีรวุฒิ กล่าว
สำหรับเป้าหมายดัชนี SET ของปี 56 ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตั้งเป้าไว้ เนื่องจากอยากจะรอดูสถานการณ์ในยุโรป และสหรัฐฯในช่วงปลายปีนี้ก่อน
*TNITY มองเป้า SET ปีนี้ 1,350 ปีหน้า 1,450 จุด-แนะเลือกลงทุนรายตัว
นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า มองเป้าหมายดัชนี SET ปี 55 ที่ 1,350 จุด คิดเป็น P/E 13.5 เท่า และปี 56 มองเป้าดัชนี SET ไว้ที่ 1,450 จุด คิดเป็น P/E 13.6 เท่า ทั้งนี้มองว่าตลาดฯคงจะต้องมีการปรับฐานล้างก่อนที่จะปรับตัวขึ้นไปต่อ
ดังนั้น ช่วงนี้จึงแนะนำให้ลงทุนหุ้นด้วยการดู bottom up valuation ของหุ้นรายตัวมากกว่าที่จะดูเป็นรายกลุ่ม โดยนักลงทุนควรจะเลือกลงทุนเป็นรายตัวไป เพราะบางตัวราคาจะไม่ถูกแล้ว อย่างไรก็ดี แนะนำหุ้นบลูชิพเป็นหลัก โดยมองหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับ AEC อย่างเช่น Low cost airline และหุ้นในกลุ่มค้าปลีกบางตัว ซึ่งยังน่าลงทุน
สำหรับปัจจัยนอกประเทศคงจะต้องโฟกัสไปที่ยุโรป โดยมองประเด็นการรับเงินช่วยเหลือของกรีซและสเปน ส่วนสหรัฐฯเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดี มองว่าตลาดฯได้รับรู้ไปแล้ว ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า"โอบาม่า"น่าจะชนะการเลือกตั้ง และหากเป็นจริงนโยบายการเงินก็คงจะดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งจริงที่จะออกมาด้วย
ส่วนปัจจัยในประเทศขณะนี้ยังไม่มีเรื่องน่าเป็นห่วง แม้ว่าจะมีเรื่องของน้ำท่วมบ้าง แต่ก็เชื่อว่าสักพักก็จะหมดไป แต่สิ่งที่ต้องรอดูเป็นเรื่องของความสามารถในการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก