ขณะที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,293 จุด ลดลง 1.23 จุด(-0.10%)เมื่อ 10.21 น.
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ทยอยสะสม"หุ้น บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC) โดยให้ราคาเหมาะสม 74 บาท เป็น 1 ในหุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงร่วมกับ TOP และ ESSO จากส่วนต่างราคาพาไรไซลีน (PX)ที่คาดจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในปี 56 หลังมีข่าวว่า Sinopec หยุดแผนสร้างโรงงานในจีน และปัจจัยบวกระยะสั้นจากกำไรสุทธิ 3Q55 สูงถึง 11,697 ล้านบาท +88.0% yoy และ +1,266.2% qoq
นอกจากนี้ ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้น จากคาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q55 ที่คาดว่าจะมีกำไรสูงถึง 11,697 ล้านบาท +88.0% yoy และ +1,266.2% qoq จากการบันทึกกำไรสต็อกน้ำมันราว 3,000 ล้านบาท ใน 3Q55 และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น จากการใช้กำลังผลิตโอเลฟินส์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 92% ใน 3Q55
ขณะที่ กำไรสุทธิปี 2556 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น +13.8% yoy เป็น 30,940 ล้านบาท โดยจุดเด่นของ PTTGC อยู่ที่การเป็นผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำเนื่องจากสายการผลิตเป็น Gas Base และเชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของธุรกิจโอเลฟินส์ รวมทั้งมี Upside Risk ต่อประมาณการหาก PX Spread ปรับตัวขึ้นสูงกว่าสมมติฐานของเรา จากข้อจำกัดในการสร้างโรงงานใหม่ในจีน
ราคาหุ้น PTTGC ซื้อขายระดับ PER 2556 เพียง 8.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นปิโตรเคมีในภูมิภาคที่ราว 10 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีเฉลี่ยปีละ 4-5%
รวมทั้งมี Downside Risk ที่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเคลื่อนไหว Underperform ตลาดมาก โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา PTTGC -2.1% สวนทาง SET INDEX ที่ +26.4% โดยเชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2556 จะเป็นปัจจัยผลักดันให้หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีกลับมา Outperform ตลาดได้