(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ รอลุ้นผลเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 7, 2012 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากยังคงรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะยังไม่จบภายในวันนี้ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาดาวโจนส์ก็มีการเก็งผลการเลือกตั้งอยู่เหมือนกัน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ไม่ได้ตอบรับเท่าไรนัก โดยยังคงรอความชัดเจนของผลการเลือกตั้งอยู่

สำหรับปัจจัยภายในประเทศก็จะยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งหุ้นในกลุ่มพลังงานถือว่าออกมาดีกว่าคาด แต่ต้องดูว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมาหรือไม่ ซึ่งมองว่าอาจมี take profit บ้างแต่ก็ไม่น่าจะทำให้ตลาดปรับตัวลงแรง

นอกจากนี้ ยังต้องจับตามดัชนีฯด้วยว่าจะสามารถยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าได้ตลาดฯก็ยังไปได้อยู่ แต่ถ้าต่ำกว่าระดับ 1,300 จุด Sentiment ตลาดฯก็จะไปต่อไม่ค่อยไหว

พร้อมให้แนวรับ 1,295 จุด แนวต้าน 1,305 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(6 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,245.68 จุด เพิ่มขึ้น 133.24 จุด(+1.02%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,428.39 จุด เพิ่มขึ้น 11.13 จุด(+0.79%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,011.93 จุด เพิ่มขึ้น 12.27 จุด(+0.41%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 55.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 75.97 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 13.07 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.60 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 6.55 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.73 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 3.30 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(6 พ.ย.)ที่ระดับ 1,300.84 จุด ลดลง 5.86 จุด(-0.45%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 690.42 ล้านบาทเมื่อ 6 พ.ย.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 88.71 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.06 ดอลลลาร์หรือ 3.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เมื่อวานนี้ปิดที่ 4.7 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.74/76 รอผลเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ-โหวตกม.รัดเข็มขัดกรีซ
  • นักเศรษฐศาสตร์-เอกชน ประเมินผลเลือกตั้งสหรัฐ กระทบไทยน้อย เชื่อว่านโยบายเปลี่ยนแปลงน้อย คาดยังวุ่นกับการแก้ปัญหาภายใน ส่งผลเงินยังไหลเข้าเอเชีย-ไทยต่อเนื่อง โพลล์โค้งสุดท้าย "โอบามา" ยังนำ แต่สูสี ขณะที่ "รอมนีย์" หวังหักปากกาเซียน
  • เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า นับจากนี้ผู้ประกอบการจะเคลื่อนไหวลดผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ใน 70 จังหวัดเอง เพราะนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. ไม่ได้สนใจจะช่วยเหลือผู้ประกอบการเท่าที่ควร
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาโครงการบ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ออกไปอีก 6 เดือน
  • ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)เปิดเผยว่า กทค.เตรียมออกหลักเกณฑ์กำหนดค่าบริการขั้นสูงควบคู่ไปกับการให้ใบอนุญาตให้บริการ(ไลเซนส์) 3จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ที่กำหนดให้ผู้ได้รับไลเซนส์ทั้ง 3 รายห้ามคิดค่าบริการด้านเสียงเกินนาทีละ 78 สต.
  • บมจ.ไทยยูเนียนโฟรเซ่น โปรดักส์ เผยขณะนี้การส่งสินค้าทูน่ากระป๋องไปกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) มีความยุ่งยากในขั้นตอนการตรวจสอบจากกรมประมงมากขึ้น หลัง 2-3 เดือนที่ผ่านมาทางอียูมีการเจอสารปนเปื้อนในสินค้าบางตัวที่นำเข้าจากไทย
  • รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)เห็นชอบปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของดีเซล 50 สต./ลิตร แต่กลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผู้ค้าน้ำมันจะปรับลดราคาขายปลีกให้ลิตรละ 50 สต.
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯคาดปีนี้ บจ.เพิ่มทุนแตะ 2.5 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี เพื่อนำเงินขยายกิจการภาวะตลาดเอื้อ บริษัทเพิ่มทุนสูงสุดปีนี้ ปตท.สผ.9.8 หมื่นล้านบาทรองลงมาแบงก์กรุงไทย 3.5 หมื่นล้านบาท "ชนิตร "คาดเพิ่มทุนปี 56 ต่ำกว่าปีนี้ เหตุหุ้นขนาดใหญ่เพิ่มทุนเกือบหมดแล้วเหลือบริษัทขนาดกลาง-เล็ก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TOP(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"มูลค่าเหมาะสม 76 บาท กำไร Q3/55 โดดเด่นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ ด้วยกำไรกว่า 1 หมื่นล้านบาท แนวโน้มกำไรจากธุรกิจปกติในไตรมาสสุดท้ายแข็งแกร่งเพราะเข้าช่วงไฮซีซั่น จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 55 เพิ่ม 30% เป็น 1.3 หมื่นล้านบาท งวดครึ่งปีหลังคาดจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 2 บาท/หุ้น ให้ผลตอบแทนอีก 3% ดีกว่าปีที่แล้วที่จ่ายเพียง 50 สตางค์
  • CPALL(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"มูลค่าเหมาะสม 43 บาท มีโอกาสปรับประมาณการปีนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดมีกำไร 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องใน 4Q55 ที่คาดโปรโมชั่นตามเทศกาลต่างๆ จะทำให้ร้านเซเว่นน่าจะมียอดขายสาขาเดิมเติบโตสูงเกิน 10% เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน และมีอัตรากำไรที่ดีขึ้นจากสัดส่วนยอดขายสินค้ากลุ่มอาหาร
  • PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 74 บาท รายงานกำไรสุทธิ 3Q55 ที่ 12,910 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114% YoY และเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 851 ล้านบาทใน 2Q55 ดีกว่าที่คาดไว้ ส่วนใหญ่เป็นผลจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ PE รวมถึง Product to feed margin ของธุรกิจอะโรเมติกส์ที่สูงกว่าคาด ขณะที่ผลประกอบการที่ดี QoQ เป็นผลจากกำไรจากทุกกลุ่มธุรกิจที่ดีขึ้น รวมถึงผลกำไรจากสต๊อกผลิตภัณฑ์ใน 3Q55 จากที่มีผลเป็นขาดทุนใน 2Q55
  • THAI(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 55 เพิ่มอีก 28% เพื่อสะท้อนกำไร 3Q55 ที่ดีกว่าคาด และการประเมินราคาพื้นฐานเลื่อนไปใช้ปี 56 แทน ราคาพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 26.90 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าถูก คาดว่ากำไรหลัก 3Q55 เป็น 1.1 พันล้านบาทถือว่าเป็นสองเท่าตัวเทียบกับปีที่แล้ว cabin factor เป็น 76.7% เทียบกับ y-o-y ที่ 74%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ