(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าบวกตามตปท. หลังคลายกังวล Fiscal Cliff

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 20, 2012 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ที่เมื่อคืนปิดตลาด บวก 207.65 จุด เนื่องจากมีความคาดหวังเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของผู้นำสหรัฐ

ด้านตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้เปิดบวก สอดคล้องกับตลาดดาวน์โจนส์ ด้านปัจจัยภายในประเทศวันนี้ยังไม่มีปัจจัยชี้นำ

พร้อมให้กรอบการแกว่งสำหรับวันนี้ 1,280-1,290 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(19 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,795.96 จุด เพิ่มขึ้น 207.65 จุด(+1.65%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,386.89 จุด เพิ่มขึ้น 27.01 จุด(+1.99%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,916.07 จุด เพิ่มขึ้น 62.94 จุด(+2.21%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 45.22 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.45 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 215.94 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 50.06 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 18.48 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 16.15 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 4.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.13 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 9.80 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(19 พ.ย.)1,283.65 จุด เพิ่มขึ้น 3.52 จุด(+0.27%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,178.78 ล้านบาท เมื่อ 19 พ.ย.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(19 พ.ย.) ที่ 89.28 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.36 ดอลลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(19 พ.ย.) ปิดที่ 4.8 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.67/69 แข็งค่าตามภูมิภาค
  • สศช.จี้ธปท.ดูแลดอกเบี้ย กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังตัวเลขไตรมาส 3 ชะลอตัว จากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจยุโรปสหรัฐชัด หั่นเป้าส่งออกปีนี้ เหลือ 5.5% ส่งผลจีดีพี ขยายตัว 5.5% ส่วนปี 2556 โต 4.5-5.5% ขณะ"ประสาร"ยันดอกเบี้ยเหมาะสม หนุนการลงทุนในประเทศ
  • ผู้นำอาเซียนเห็นพ้องเลื่อนเปิดเออีซีไป31 ธ.ค. 2558 จากเดิม 1 ม.ค. 2558 "ยิ่งลักษณ์" จี้ญี่ปุ่นประสานความร่วมมือ เร่งขับเคลื่อนการค้า การลงทุน ดึงเกาหลีช่วยพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคมเชื่อมโยงอาเซียน
  • คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชนเสนอรัฐบาลตั้งกองทุน 5 หมื่นล้านเยียวยาผลกระทบปรับค่าแรง 300 บาทด้าน"สมคิด" ชี้นโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท ก่อปัญหาให้ภาคอุตสาหกรรม ระบุมูลค่าสินค้าต่างกันแต่ต้นทุนค่าแรงเท่ากัน แนะเร่งพัฒนาใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)แถลงเศรษฐกิจปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 5.5% แม้ว่า 9 เดือนแรกปีนี้จะขยายตัวเพียง 2.6% ก็ตาม โดยเป็นผลจากเศรษฐกิจไตรมาส 3 ขยายตัว 3% ชะลอจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 4.4%
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยยืนยันให้การสนับสนุนและช่วยเหลือให้โครงการนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกทวาย ส่วนการให้ความช่วยเหลือทางการเงินมีหลายแนวทางและยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอนุกรรมการร่วมไทย-เมียนมาร์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 74 บาท คาดว่าราคาน้ำมันดิบที่ไต่ระดับขึ้นทั้ง 3 ตลาด ได้แก่ NYMEX, BRENT และ DUBAI เมื่อคืนนี้ จากเหตุการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง เป็น Sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น + ปิโตรเคมี และประเมินว่า PTTGC จะได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมีทิศทางไต่ระดับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ต้นทุนของ PTTGC เป็น Gas Base ดังนั้น จะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของ PTTGC ขึ้นเร็วกว่าคู่แข่งขัน
  • MFEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 8 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจช่วง 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะเข้าสู่วงจรขาขึ้นของกำไร เนื่องจากได้รับประโยชน์โดยตรงจากการผลัดใบเข้าสู่เทคโนโลยี 3G ของไทย และการเปิด AEC ขยายเข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้าน
  • CPALL(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 43 บาท กลุ่มค้าปลีกได้รับอานิสงค์จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้นช่วยหนุนรายได้ให้เติบโตสูงและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แนวโน้ม 4Q55 คาดโปรโมชั่นตามเทศกาลต่าง ๆ จะทำให้ร้านค้าปลีก 7/11 มียอดขายของสาขาเดิมโตสูงเกิน 10% เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน และมีอัตรากำไรที่ดีขึ้นจากสัดส่วนยอดขายสินค้ากลุ่มอาหาร
  • SAMART(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 13.40 บาท มีความคืบหน้าตรวจสอบประวัติผู้โดยสารทั้งขาเข้า-ขาออก และผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบินในประเทศไทย (APPS) โดยจะจัดเก็บในอัตราไม่เกิน 50 บาทต่อคนต่อครั้ง มองข่าวนี้จะส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่ม SAMART ที่มีโอกาสร่วมทำโครงการนี้ในส่วนของผู้โดยสารต่างประเทศ ซึ่งมีจำนวนราว 40-42 ล้านคนต่อปี จะเพิ่มรายได้งานประจำและกำไรในระยะยาว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ