ทั้งนี้ หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 50.15 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 13,035.26 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.07 จุด หรือ 0.50% แตะที่ 1,417.00 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 20.21 จุด หรือ 0.68% แตะที่ 3,011.99 จุด
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐจะรอดพ้นจากภาวะหน้าผาการคลัง โดยโอบามาได้แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลสหรัฐและสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังได้ก่อนเทศกาลคริสต์มาส
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายตัว 2.7% ต่อปีในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2555 ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบสามปี และสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งแรกที่ 2.0% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ย. ลดลง 23,000 ราย มาอยู่ที่ 393,000 ราย โดยเป็นการลดลงสองสัปดาห์ติดต่อกัน
นอกจากนี้ ตลาดได้รับปัจจัยบวกหลังจากมีรายงานว่า อิตาลีสามารถระดมทุนจากการขายพันธบัตรได้เกือบ 6 พันล้านยูโร (ราว 7.7 พันล้านดอลลาร์) ในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2543
หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชั่น (RIM) พุ่งขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงอันเนื่องมาจากผลกระทบของพายุเฮอริเคนแซนดี้ โดยหุ้นทาร์เก็ตร่วงลง 2% และหุ้นโคห์ล ดิ่งลง 10.3%