MFC เปิดขายทาร์เก็ตฟันด์ SPOT33S5 ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ใน 5 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 28, 2013 12:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากกระแสความสนใจลงทุนในทาร์เก็ตฟันด์ของกลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมและผู้สนใจใหม่ มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดทาร์เก็ตฟันด์ SPOT 33 ซีรี่ส์ 4 มีแรงซื้อเข้ามามาก เอ็มเอฟซีจึงได้เปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีสปอท 33 ซีรี่ส์ 5 (SPOT33S5) ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ม.ค.56 เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์ไทย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งในปีนี้ยังคงเป็นโอกาสเหมาะสมกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ขยายตัวจากกำไรที่สูง ตลอดจนเศรษฐกิจไทยที่ยังคงขยายตัวได้ดี

นอกจากนี้แล้ว เอ็มเอฟซียังบริหารกองทุนเปิด SPOT33 ซีรี่ส์ 2 และ 3 เข้าเป้าหมายร้อยละ 3 ครั้งที่หนึ่ง และจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งสองกองทุน โดยรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเพื่อเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน ณ วันที่ 28 มกราคมนี้

กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีสปอท 33 ซีรี่ส์ 5 (SPOT33S5) มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ในประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนร้อยละ 3 สองครั้งรวมเป็นร้อยละ 6 ภายใน 5 เดือน โดยภายใน 5 เดือนแรกหากกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน 10.35 บาทขึ้นไป กองทุนเปิด SPOT33S5 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในอัตราร้อยละ 3 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับคืนผลตอบแทนครั้งที่ 1 ในอัตราร้อยละ 3 ก่อน และบริษัทจัดการจะทำการบริหารเงินลงทุนเดิมเพื่อให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นต่อจนเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามเป้าหมายเพื่อรับผลตอบแทนอีกร้อยละ 3 ต่อไป

กลยุทธ์ของกองทุนเปิด SPOT33S5 จะบริหารกองทุนแบบ Active ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงทีทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ และสามารถลงทุนในตราสารอนุพันธ์ โดยลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน SET50 Index Futures โดยเอ็มเอฟซีมองปัจจัยสนับสนุนที่ดีต่อโอกาสการลงทุนของกองทุนเปิด SPOT33S5 ให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แก่ เศรษฐกิจไทยที่ยังคงขยายตัวจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.5-5.0% และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงแข็งแกร่งคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 13-15% ในปีนี้ ตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะยังได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ถึงแม้ว่าค่า P/E ใกล้เคียงกับภูมิภาค แต่ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจลงทุนจากการขยายตัวของกำไรที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ