ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 72.49 จุดขานรับราคาบ้านสหรัฐพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 30, 2013 06:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ภายในประเทศ หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 72.49 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 13,954.42 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.66 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 1,507.84 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.64 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 3,153.66 จุด

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ขานรับรายงานของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ที่ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนพ.ย. โดยนายเดวิด บลิทเซอร์ ประธานฝ่ายจัดทำดัชนีราคาบ้านของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์สกล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น และคาดว่าภาคธุรกิจนี้จะช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2556

ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนพ.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนต.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีพุ่งขึ้น 5.5%

อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกสกัดลงในระหว่างวัน ซึ่งส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจาก Conference Board รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนม.ค.ร่วงลงแตะ 58.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย.2554 และเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

ลินน์ ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจของ Conference Board กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีเงินได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างชัดเจน และอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าที่ความเชื่อมั่นจะฟื้นตัวขึ้น

หุ้นไฟเซอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ระดับโลก พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาส 4/2555 อยู่ที่ 6.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 85 เซนต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระดับ 1.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 19 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาส 4/2554

หุ้นแอปเปิลปรับตัวขึ้น 1.88% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิลก็ไม่สามารถหนุนดัชนี Nasdaq ให้สามารถปิดในแดนบวกได้

นักลงทุนจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนวันพุธตามเวลาสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% พร้อมทั้งเดินหน้าหนุนเศรษฐกิจ เพื่อให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจสามารถกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงต่อไปอีก แม้ว่าอัตราว่างงงานลดลงอย่างมากก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ