ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 523,798 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 18, 2013 17:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (11 — 15 กุมภาพันธ์ 2556) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 523,798 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 104,760 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ประมาณ 1% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 71% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 370,226 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 135,029 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 8,277 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB176A (อายุ 4.5 ปี) LB145B (อายุ 1.3 ปี) และLB15DA (อายุ 2.8 ปี) มีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 34,971 ล้านบาท 17,139 ล้านบาท และ 16,490 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB13516B (อายุ 91 วัน) CB13305A (อายุ 14 วัน) และ CB13307A (อายุ 14 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 37,292 ล้านบาท 32,822 ล้านบาท และ 29,614 ล้านบาท ตามลำดับ

ทางด้านหุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) รุ่น CPF13NA (AA-) มูลค่าการซื้อขาย 1,118 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (มหาชน) รุ่น MPSC136A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 824 ล้านบาท และ หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT14DA (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 509 ล้านบาท เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุของตราสารหนี้ ในช่วง +1 ถึง+7 Basis Point (100 Basis point มีค่าเท่ากับ 1%) โดยภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์นี้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากส่วนหนึ่งมีแรงขายเพื่อทำกำไรจากนักลงทุน หลังจากที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า (ราคาพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น) ตามการคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ย กลายมาเป็นประเด็นหลักที่นักลงทุนในตลาดให้ความสนใจ หลังจากที่ รมว. คลังได้ส่งสัญญาณถึง ธปท. อย่างต่อเนื่องถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากเงินบาทแข็งค่าไปแล้วกว่า 2.35% นับตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ ธปท.ได้ยืนยันว่าจะทำการพิจารถึงเสถียรภาพโดยรวมของระบบเศรษฐกิจเป็นหลัก แทนที่จะให้น้ำหนักในเรื่องของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อภาคการส่งออกเพียงอย่างเดียว

ในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภท (ทั้งระยะสั้น และระยะยาว) รวมกัน 4,181 ล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะการซื้อขายในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุคงเหลือมากกว่า 1 ปี) จะพบว่าเป็นการซื้อสุทธิ 3,578 ล้านบาท ทางด้านของนักลงทุนรายย่อย ในสัปดาห์นี้มียอดขายสุทธิ 31 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ