(เพิ่มเติม) DEMCO คาด Q2/56 รับรู้รายได้ 1.5-1.8 พันลบ.มี backlog แล้ว 6.08 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 29, 2013 15:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เด็มโก้(DEMCO)เปิดเผยถึงแผนงานบริษัทในปีนี้ว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท เป็นผลจากปริมาณงานที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากการประมูลงานได้มากขึ้น เห็นได้จากปริมาณงานในมือ (Backlog ) ณ สิ้นเดือน เม.ย.56 ที่ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 6,086 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาสแรกซึ่งมีจำนวน 4,870 ล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 2 อีกมูลค่ากว่า 1,500-1,800 ล้านบาท

บริษัทจะเข้าประมูลงานเพิ่มจาก กฟภ.ประมาณ 3,700 ล้านบาท งานประมูลสถานีไฟฟ้า และสายส่งแรงสูง กฟผ.ไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท งานสถานีไฟฟ้าภาคเอกชนไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาท งานโครงการพลังงานลม วะตะแบก ขนาด 60 เมกกะวัตต์ ที่คาดว่าจะเริ่มงานได้ในช่วงครึ่งหลังของปี รวมถึงงานประมูลเสา 3 G ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งบริษัทจะรับรู้รายได้ในส่วนงานขายและโรงงานปีนี้ไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท

“DEMCO ยังคงมุ่งมั่นก้าวเดินต่อไปเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จในอนาคต เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งผู้ถือหุ้น กลุ่มลูกค้า พันธมิตร ผู้บริหารและพนักงาน ซึ่งผลจากการที่บริษัทมี Backlog อยู่เป็นจำนวนมาก และโอกาสในการเข้าประมูลงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่าปีนี้จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ สู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยจะเริ่มเห็นผลที่เด่นชัดได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2556 เป็นต้นไป"

สำหรับการลงทุนใน บริษัท วินด์ เอ็นเนอยี่ส์ โฮลดิ้ง จำกัด ขณะนี้ DEMCO ได้ทำสัญญาจองซื้อหุ้นและจ่ายเงินมัดจำ 200 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นเพิ่มทุนร้อยละ 5 ในบริษัทดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 30 พ.ค.นี้ รวมถึงการเพิ่มทุนเพื่อชำระค่าหุ้นดังกล่าว และอนุมัติการออกวอร์แรนท์ 5 และวอร์แรนท์ 6 เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและรองรับการลงทุนโครงการ Biomass Biogas ในอนาคต

การเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ประเมินแล้วว่าจะทำให้ DEMCO ได้รับประโยชน์จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของ วินด์ เอ็นเนอยี่ส์ฯ อีก 9 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 690 เมกกะวัตต์ ทั้งในรูปของงานก่อสร้างคิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท และผลตอบแทนในรูปเงินปันผลของบริษัทย่อยในแต่ละโครงการ รวมทั้งมีโอกาสขายหุ้นเมื่อ วินด์ เอ็นเนอยี่ส์ฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 57 อีกด้วย

“การเข้าเป็นผู้ถือหุ้นในวินด์ เอนเนอร์ยี่ ถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งในการเพิ่มฐานรายได้และกำไรให้กับ DEMCO ซึ่งหากคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมที่ได้รับการอนุมัติจาก กฟผ.แล้ว 5 โครงการ รวมถึงโครงการห้วยบง 2 และ 3 และโครงการเขาค้อ คิดเป็นผลตอบแทนจากการร่วมลงทุนในอัตราประมาณร้อยละ 13.5 ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของ DEMCO เติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น"

สำหรับข่าวที่ลือในหมู่ผู้ลงทุนว่า ตลท.ประกาศให้ผู้ถือหุ้นลงมติไม่เห็นชอบกับการที่บริษัทเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนร้อยละ 5 ของ วินด์ เอ็นเนอร์ยี่โฮลดิ้งนั้น น่าจะเป็นความเข้าใจผิด โดยประกาศของ ตลท.เมื่อวันที่ 28 พ.ค.เป็นการแจ้งให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูล ผลการศึกษาของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ(IFA)และรับทราบความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการบริษัท และพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 พ.ค.เท่านั้น แต่ไม่ได้ประกาศให้ลงมติคัดค้าน

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ IFA แนะนำผู้ถือหุ้น DEMCO ไม่ควรอนุมัติดีลซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ WEH เพราะเห็นว่าราคาซื้อที่ 190 บาท/หุ้นไม่เหมาะสม ขณะที่จากการประเมินในมุมของคณะกรรมการบริษัทเห็นว่าราคา 190 บาท/หุ้นเป็นราคาที่เหมาะสม และต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสมของ WEH ในอนาคต และมีข้อมูลบางส่วนที่ IFA นำมาประเมินไม่ตรงกับที่คณะกรรมการบริษัทประเมิน เช่น ค่าพลังงานในแต่ละโครงการ IFA ประเมินจากกังหันรุ่นเดิม แต่ที่ WEH จะนำมาใช้นั้นเป็นกังหันรุ่นใหม่ ซึ่งจะทำให้ได้ปริมาณไฟฟ้าที่สูงกว่าเดิม

"รวมถึงเรื่องของการปรับค่าไฟฟ้า ที่ IFA ปรับแค่ค่าไฟฐาน แต่ค่า FT ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีการปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ต่อปี "เรามองว่าราคาที่ 190 บาท หลังจากที่เราได้คำนวนในแบบของเราแล้วเรามองว่า คุ้มค่าที่ราคา 190 บาท รวมถึงเรายังทำสัญญาไว้ว่าหากจะเพิ่มทุนหรือมีการขายหุ้นต้องไม่ต่ำกว่าราคา 190 บาท"นายพงศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ทางบริษัทยังมองว่าจากความกังวลในด้านเงินทุนของ WEH ปัจจุบันบริษัท WEH ได้รับการตอบรับจากธนาคารพานิชย์ในการกู้เงิน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังได้มองว่า WEH ยังมีแนวทางที่จะสามารถระดมทุนโดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ได้ จึงมองว่าในส่วนของเงินทุนนั้นไม่น่าจะมีปัญหา ในการขยายธุรกิจ

ด้วยเหตุผลที่สนับสนุนเรื่องการดำเนินธุรกิจที่มองว่าจะยังสามารถ ดำเนินต่อไปได้ รวมถึงแหล่งเงินทุนที่จะมีรองรับให้กับบริษัท WEH และยังมองว่าการเติบโตของ WEH ยังจะทำให้มูลค่าของ WEH เพิ่มขึ้นมากกว่า 190 บาท/หุ้น ได้ จึงมองว่าในวันพรุ่งนี้ผู้ถือหุ้นจะตอบรับการระดมทุนครั้งใหม่ที่คาดว่าจะได้รับเงินประมาณ 1,250 ล้านบาท โดยจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ในการซื้อหุ้นของ WHE จำนวน 1,000 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการวางเงินมัดจำไปแล้ว 200 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ