(เพิ่มเติม) BBL เผยยังไม่พิจารณาลดดอกเบี้ย ขอรอดูสภาพตลาด-ปัจจัยแวดล้อมก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 7, 2013 14:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโฆสิต ปั้มเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธนาคารยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาทิศทางอัตราดอกเบี้ย แต่ยังไม่มีข้อยุติ โดยต้องดูจากปัจจัยหลายอย่างประกอบการพิจารณา ได้แก่ ความผันผวนเศรษฐกิจโลก และสภาพการแข่งขันของตลาดไทยว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งล่าสุดมีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%
"สิ่งที่ธนาคารกังวลมากที่สุด คือสภาพการแข่งขันภายในที่มีการแข่งขันสูง ก็มองว่า ขณะเกิดความผันผวนไม่ควรผันผวนตามเศรษฐกิจจนกว่าสะเด็ดน้ำ ถ้าจะมีการปรับลดจริงๆ ก็ต้องดูว่า การแข่งขันภายในประเทศอ่อนตัวแล้วจึงจะมีการปรับลดได้"นายโฆษิต กล่าว

นายโฆสิต มองว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังในเรื่องของปัจจัยเสี่ยง การขับเคลื่อนเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะมาจากอุปสงค์ในประเทศ โดยมีองค์ประกอบจากการลงทุนภาครัฐ

ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้อยู่ในช่วงขาลงแรง มองว่าเป็นการปรับฐานในระยะสั้น 6-7 เดือนจากปัจจัยต่างประเทศที่เข้ามากระทบ โดยหลักมาจากความกังวลเรื่องสหรัฐจะยุติมาตรการ QE แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าเศรษฐกิจในสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศที่เป็นคู่ค้าสามารถทำการค้าได้ดีตามไปด้วย ส่วนเรื่องเงินทุนไหลออกในช่วงนี้ค่อนข้างมากก็กระทบกับตลาดหุ้นไทยเช่นกัน

ตลาดหุ้นช่วงนี้ยังมีความผันผวนไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้การลงทุนในระยะสั้นยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก แต่การลงทุนในรขยะยาวจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังถือว่าดี และมีหุ้นที่น่าสนใจหลายตัว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี อย่างเช่นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และพลังงาน เป็นต้น อีกทั้งมองว่าระดับ P/E ตลาดหุ้นยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีค่า P/E อยู่ที่ 13 เท่า

สำหรับผลกระทบต่อหุ้น IPO ที่จะออกใหม่ในช่วงนี้ มองว่าอาจจะไม่มีผลกระทบมากนัก แต่การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นอาจจะไม่มากเหมือนในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการประเมินของแต่ละบริษัท

นางวิวรรณ กล่าวว่า นักลงทุนควรจะติดตามข้อมูลการบริโภคที่อาจชะลอตัวลงและหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ การออก Trigger Fund ต่างๆ ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน และอยากให้นักลงทุนมองภาพในระยาวมากกว่าในระยะสั้น โดยในระยะยาวการลงทุนของภาครัฐจะมีความสำคัญมาก ซึ่งตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นภาพชัดเจนแต่ในอนาคตจะส่งผลดีต่อการลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ