(เพิ่มเติม) อมตะ บี.กริมฯคาดเสนอขายกองทุน ABPIF มูลค่า 6-7 พันลบ.ปลายมิ.ย.-ต้นก.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 11, 2013 17:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ คาดจะเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ABPIF มูลค่า 6-7 พันล้านบาท ได้ในช่วงปลายเดือน มิ.ย.- ต้นเดือน ก.ค.2556 เพื่อนำไปพัฒนาโรงไฟฟ้า

นางปรียานาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้มีการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) คาดว่าจะขายหน่วยลงทุนภายในช่วงปลายมิ.ย. 56 — ต้นก.ค. 56 ซึ่งคาดว่าในการระดมทุนครั้งนี้จะได้รับเงินระดมทุนราว 6-7 พันล้านบาท โดยบริษัทจะนำไปพัฒนาโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 16 โรง จากปัจจุบันมีอยู่ 4 โรง ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 400 เมกะวัตต์ และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะสามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าและมีกำลังการผลิตราว 700 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่บางกระดีอยู่จำนวน 2 โรง และก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่อมตะซิตี้อีกจำนวน 2 โรง ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายมีกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าใน 6 ปี อยู่ที่ 2,000 เมกะวัตต์

ส่วนแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ บริษัทก็มีการพิจารณาประเทศที่มีความน่าสนใจ อย่างเช่น มาเลเซีย ลาว และญี่ปุ่น ซึ่งอยุ่ในขั้นตอนของการศึกษาและหารือถึงรายละเอียดในการดำเนินงานในช่วงเริ่มต้น อย่างไรก็ตามบริษัทมีโรงไฟฟ้าอยู่ที่ประเทศเวียดนาม 1 โรง

บริษัทเชื่อว่ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ABPIF จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุนของนักลงทุนที่สนในลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า เนื่องจากธุรกิจมีความเสี่ยต่ำ มีรายได้จากการดำเนินงานที่ชัดเจน มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าแก๊สที่นำไปใช้ผลิตไฟฟ้าในอนาคต

ด้านนายสุรเดช เกียรติธนากร ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ABPIF เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดยคาดว่าผลตอบแทนในการลงทุนจะไม่ต่ำกว่า 6% ต่อปี และกองทุน ABPIF มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนประเภทอื่น อย่างเช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือตราสารหนี้

“กองทุน ABPIF มีแนวทางในการสร้างรายได้ในอนาคตที่มีความชัดเจน ซึ่งมีรายได้จากการขายไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มมาเพิ่มมากขึ้นและมีระดับที่มีเสถียรภาพ เพราะปริมาณการความต้องการใช้ไฟฟ้ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ธุรกิจมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง"นายสุรเดช กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ