บลจ.แมนูไลฟ์ มีมุมมองบวกต่อหุ้นไทย ระบุตลาดปรับฐานเป็นโอกาสเข้าลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 17, 2013 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บลจ. แมนูไลฟ์ ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย เชื่อว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยเองยังเป็นตลาดที่น่าสนใจลงทุน และการปรับตัวในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทย เนื่องจากยังมีบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทที่สามารถเติบโตและมีความสามารถในการทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัจจัยในเชิงมหภาคและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศรวมถึงบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายการลงทุนหรือใช้จ่ายของภาครัฐ

อย่างไรก็ดี เราสามารถลดความเสี่ยงและความผันผวนของการลงทุนในหุ้นได้ ด้วยการเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เรารู้จักเป็นอย่างดีและมีข้อมูลในเชิงลึกที่สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ และที่สำคัญ คือ หาจังหวะลงทุนในระดับราคาที่ไม่แพง ซึ่งผู้จัดการกองทุนของแมนูไลฟ์ได้นำสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาเป็นกลยุทธ์ในการบริหารกองทุนด้วยเช่นกัน เป็นผลให้ผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นไทยของเราสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น ในช่วงที่ตลาดปรับฐานเช่นนี้ก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะทยอยเข้าลงทุนในหุ้นไทย หากท่านใดไม่มีเวลาติดตามความผันผวนของราคาหุ้น กองทุนรวมนับเป็นทางเลือกที่ดี โดยท่านสามารถจัดสรรเงินมาลงทุนในกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ ปันผล (MS-EQ DIV) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคำนึงถึงราคาและมูลค่าที่เหมาะสม ปัจจัยพื้นฐาน แนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจ ประวัติการจ่ายเงินปันผล รวมถึงแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลของหลักทรัพย์นั้นๆ

"เรามองว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนในระยะสั้น เห็นได้จากในเวลาเพียงไม่กี่วัน SET Index ปรับตัวลดลงระหว่างวันไปต่ำกว่า 1,380 จุด หรือประมาณ 15% หลังจากที่เพิ่งปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) ในรอบ 16 ปี ที่ระดับ 1,643 จุด เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักๆ น่าจะมาจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐอเมริกาที่อาจปรับลดขนาดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ส่งสัญญาณของการชะลอตัว ประกอบกับ นักลงทุนต่างชาติได้ขายทำกำไรในตลาด TIP ทำให้ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ปรับตัวลดลงมามากเช่นกัน รวมทั้งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ลงทุนมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วซึ่งมีกำไรมากพอสมควร จึงอาจขายทำกำไรและรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ในช่วงนี้ก่อน"นายต่อ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ