กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Bank of China, Bank Danamon และ Banco BTG Pactual S.A.ในสัดส่วน 60% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารในประเทศ ประเภทหุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน/บริษัทเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.70% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 (KTFIX6M4 ) เป็นกองทุนประเภท Roll Over อายุ 6 เดือน เสนอขายตั้งแต่วันที่ 2-5 กรกฎาคม 2556 มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ และเงินฝากธนาคารพาณิชย์
กองทุนจะเน้นลงทุนในเงินฝากธนาคารเกียรตินาคิน, ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และธนาคารธนชาตในสัดส่วน 43% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.45% ต่อปี
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนระยะสั้นอายุ 1 เดือน-1 ปี มีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 2.47-2.56% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทยปรับตัวสูงพุ่ง โดยมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องในระบบธนาคารจีน ก่อนที่จะปรับลดลงหลังนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้าซื้อพันธบัตรไทยอีกครั้ง ส่วนค่าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.90-31.20 บาท/ดอลลาร์ โดยคงต้องจับตาการเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ
ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี ISM ภาคการผลิต-ภาคบริการ เดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้าง ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตารายงานดัชนี PMI ของหลายๆ ประเทศในเดือน มิ.ย. 2556 ที่มีกำหนดจะประกาศในช่วงต้นเดือนด้วยเช่นกัน