(เพิ่มเติม) NOBLE บวก 5% เก็งกำไรหลัง Esteem เก็บหุ้น 23.64%-รอดูท่าทีผถห.ใหญ่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 17, 2013 11:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

NOBLE บวก 5.00% อยู่ที่ 9.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท เมื่อเวลา 10.05 น.โดยเปิดตลาดที่ 9.15 บาท สูงสุด 9.45 บาท ต่ำสุด 9.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 3.14 ล้านบาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯให้ติดตามความเคลื่อนไหวของ Esteem ภายหลังจากที่ก.ล.ต.ได้รับแบบรายงานการได้มาของหุ้น บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์(NOBLE) โดย Esteemed Networks Group Limited (Esteem) 7.23% รวมเป็น 23.64% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

หากในที่สุดสัดส่วนการถือหุ้นเกิน 25% ก็จะเข้าเกณฑ์ต้องทำคำเสนอซื้อ (Tender offer) จากผู้ถือหุ้นต่อไป แต่ก็ต้องรอดูท่าทีของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมจะป้องกันการเข้าซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร (hostile takeover) หรือไม่

ปัจจุบันกลุ่มครอบครัวธนากิจอำนวยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทมาร่วมกับกลุ่มนายชาลี โสภณพนิช และนางพนิดา เทพกาญจนา(วัธนเวคิน) ตั้งแต่ปี 34 ตามทฤษฎีแล้วมีหลายวิธีที่จะป้องกันการถูกเข้าซื้อกิจการ เช่น การซื้อหุ้นเพิ่มเพื่อปัองกัน, เพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นของ ESTEEM หรือสร้างข้อกำหนดต่างๆ ขึ้นมาให้เป็นเกราะป้องกันในการถูกซื้อกิจการ เป็นต้น

ทั้งนี้ Esteem ได้รับหุ้นบางส่วนจาก Stanley Street Limited ซึ่งเป็นกองทุนสัญชาติ ฟิลิปปินส์(Passive Fund) ในสัดส่วนรวมประมาณ 13% ล็อตล่าสุดที่ 7.23% ก็มาจากองทุนแห่งนี้ ปัจจุบัน Stanley Street Limited เหลือหุ้น NOBLE เพียง 0.01%

อีกทั้งยังไม่ทราบว่า Esteem เป็นนักลงทุนประเภทใด มีแต่ข้อมูลว่าตั้งอยู่ที่หมู่เกาะ British Virgin Islands และมีการรับฝากใบหุ้นไว้กับ Custodian เท่านั้น จังยังไม่มีข้อมูลว่า Esteem เป็นกองทุนฯที่สนใจเพียงการลงทุน และพอใจที่จะถือหุ้นในสัดส่วนที่ 23.6% แล้วหยุด หรือเป็นกิจการที่สนใจจะเข้าบริหารงานในบริษัทด้วย นั่นหมายถึงการเข้าถือหุ้นมากกว่า 25% จะทำให้มีน้ำหนักต่อการออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติในวาระต่างๆ ของบริษัท

สำหรับปัจจัยพื้นฐานของ NOBLE ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ถือ" คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q56 ไม่สดใส คือ ออกมาบางมาก หรือถึงกับขาดทุน หลังกำไรสุทธิ 1Q56 ที่ประกาศเพิ่มก้าวกระโดดถึง 426% y-o-y เป็น 217 ล้านบาท เพราะเป็นรอยต่อมีแต่การโอนคอนโดที่เป็นสินค้าคงเหลือ รายได้จึงควรจะน้อยมาก ขณะที่ 1Q56 มีการโอนส่วนใหญ่เป็นคอนโด Noble Reform ทำให้รายได้สูงขึ้นมาก และเป็นการโอนจนหมดแล้วใน 1Q56

แต่มาถึงครึ่งหลังปี 56 กำไรจะกลับมาฟื้นตัวได้ จากการเริ่มโอนคอนโด RE:D ใน 3Q56 ที่มูลค่าขาย 1 พันล้านบาท เราคาดว่าจะโอนได้หมดในปี 56 และ Revent จากมูลค่าขายทั้งหมด 1.3 พันล้านบาท จะเริ่มโอนตั้งแต่ 4Q56 โดยมีสมมุติฐานว่าโอนได้บางส่วน ประมาณ 45% ในปีนี้ และส่วนที่เหลือในปี 57 จนทำให้กำไรสุทธิตลอดปี 56 ยังเพิ่มได้ 19% y-o-y

วานนี้(16 ก.ค.)หุ้น NOBLE ปิดที่ 9.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท(+3.45%)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ